“พปชร.” แถลง 3 จุดยืน! “อุตตม” แนะอย่ามองปชช.หนุนพรรคใด ชอบธรรมแต่ฝ่ายเดียว
“พปชร.” แถลง 3 จุดยืน! “อุตตม” แนะอย่ามองปชช.หนุนพรรคใด ชอบธรรมแต่ฝ่ายเดียว
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พร้อมด้วยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายสมศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค แถลงจุดยืนภายหลังจากที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้เปิดเผยผลคะแนนเลือกตั้ง 100% อย่างเป็นทางการ
โดยนายอุตตม กล่าวว่า จากผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.2562 ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความไว้วางใจ เลือกผู้สมัครและพรรคพลังประชารัฐ จนได้รับคะแนนสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งจำนวน 8,433,137 คะแนน โดยมีผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้งครบทุกภูมิภาคของประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร
โดยพรรคพลังประชารัฐ มีแถลงการณ์จุดยืน 3 ข้อ ได้แก่
พรรคพลังประชารัฐ ขอยึดมั่นและจะทำหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เพื่อปกป้องรักษาประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พรรคพลังประชารัฐ ขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนในทุกคะแนนเสียงที่ได้เลือกผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดก็ตาม ย่อมถือว่าเป็นสิทธิของประชาชน ผู้ใดก็ตามไม่ควรที่จะนำไปกล่าวอ้างว่าประชาชนที่สนับสนุนฝ่ายตนเองเป็นฝ่ายที่ชอบธรรมแต่ฝ่ายเดียวเท่านั้น เพราะจะนำไปสู่การแบ่งแยกพี่น้องประชาชน อันอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมเหมือนเดิม
พรรคพลังประชารัฐ มีจุดยืนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลว่าทุกพรรคการเมืองสามารถรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ในระหว่างที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ได้ประกาศและรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ (โดยเฉพาะการคำนวณจำนวน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ) ดังนั้น การรวบรวมเสียง ส.ส.เพื่อสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาล ย่อมยังจะไม่มีผลทางการเมืองที่จะประกาศชัดเจนว่าขั้วการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเสียงสนับสนุนครบถ้วนถูกต้องแล้ว
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการทำงานของ กกต. ที่ดูเป็นการช่วยเหลือพรรคพลังประชารัฐนั้น หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐ เป็นเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่ได้มีสิทธิพิเศษในการได้รับความช่วยเหลือใดๆ พร้อมกันนี้ พรรคก็มีข้อเรียกร้องให้ กกต. ได้ชี้แจงข้อกังขาของสังคมที่มีต่อ กกต. เช่นกัน อาทิ การประกาศคะแนนที่ล่าช้า การคิดคะแนนจาก 95% ขึ้นมา 100% ที่มีจำนวนตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงที่มีการตั้งข้อสังเกตกรณีบัตรดี และบัตรเสีย และระบบการคำนวณบัญชีรายชื่อ ที่ก็ยังไม่ชัดเจนเช่น เพราะพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนเสียงมากที่สุดแต่กลับได้ที่นั่ง สส.ปาร์ตี้ลิสลดลง
ขณะที่กรณีพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ กกต.จัดการเลือกตั้งใหม่ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ กกต. อย่างไรก็ตาม การยื่นถอดถอนการทำงานของ กกต. อาจจะทำให้เกิดการยืดเยื้อ และส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งนี้กลายเป็นโมฆะนั้น หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะกกต.เองก็ยังทำหน้าที่อยู่ และกกต ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าทำงานได้อย่างบริสุทธ์ยุติธรรม
นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลยังคงเน้นย้ำจุดยืน และยังคงต้องรอความชัดเจนอย่างเป็นทางการจาก กกต. และยืนยันจะไม่มีการแถลงท่าทีใดๆของการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนกระบวนการในการพูดคุยเจรจายังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และกระบวนการยังไม่เสร็จสิ้นจึงจะยังไม่เปิดเผยข้อมูล เพราะเกรงว่าอาจจะทำให้เกิดความสับสันขึ้นได้