TWZ รับเงิน 158.47 ลบ. หลังขายหุ้น “เกียร์ คอร์ปอเรชั่น” 80% หนุนกำไรทางบัญชีเพิ่ม 32 ลบ.

บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค. บริษัทขายบริษัทย่อย คือ บริษัท เกียร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (GEAR) ซึ่งลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยการขายหุ้นสามัญของ GEAR ซึ่งถือหุ้นในบริษัท มาสเทค ทูล แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (MASTECH) ในสัดส่วน 80% คิดเป็นมูลค่า 158.47 ล้านบาท ให้กับบริษัท ซี.ที. เวนเจอร์ จำกัด โดย MASTECH มีธุรกิจการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยโครงการตั้งอยู่ที่สหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมหินซ้อน จำกัด จ.สระบุรี กำลังการผลิตตามสัญญา 5 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งปัจจุบันจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว

ทั้งนี้ การขายหุ้นดังกล่าวมีเงื่อนไข GEAR จะต้องโอนทรัพย์สินและหนี้สินของ GEAR  ให้กับ TWZ ก่อน โดยจะเหลือสินทรัพย์ของ GEAR ก่อนโอนกรรมสิทธิขายคือ เงินลงทุนในหุ้นของ MASTECH  ซึ่งมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของ GEAR ที่โอนเท่ากับ 11.97 ล้านบาท เพื่อที่จะให้มูลค่าหุ้นของ GEAR เท่ากับมูลค่าหุ้นของ MASTECH และมีค่าใช้จ่ายสำรองค่าใช้จ่ายคดีซึ่งเป็นคดีความอีก 12.50 ล้านบาท

โดยเป็นคดีที่ MASTECH ถูกพิพากษาจากศาลชั้นต้นให้ชำระเงิน 8.26 ล้านบาท ซึ่งปรากฎอยู่ในงบการเงินของ MASTECH หากคดีถึงที่สุด MASTECH ต้องชำระหนี้น้อยกว่า ก็ให้หักจากเงิน 12.50 ล้านบาท ชำระคืนให้กับ TWZ ซึ่งทางบริษัทคาดว่า การหักเงินสำรองดังกล่าวเพียงพอ และสามารถนำที่เหลือคืนมาให้กับ TWZ ได้ ดังนั้น TWZ  จะได้รับเงินจากการขายสุทธิเท่ากับ 134 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะได้รับเงินจากการขายเงินลงทุนเท่ากับ 134 ล้านบาท ไปลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะอุตสาหกรรมตามที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติเนื่องจากบริษัทได้เงินเพิ่มทุนน้อยกว่าที่ประมาณการไว้ ทำให้บริษัทมีเงินทุนจากการขายเงินลงทุนมาเพื่อสนับสนุนให้บริษัทสามารถดำเนินการตามแผนการขยายธุรกิจในระยะยาวได้

ทั้งยังมีผลต่อผลตอบแทนในระยะยาวและยังสามารถต่อยอดธุรกิจไปยังธุรกิจที่ต่อเนื่องได้อีกมาก นอกจากนี้การขายเงินลงทุนดังกล่าวยังทำให้บริษัทได้รับกำไรทางบัญชีในการขายหุ้นประมาณ 32 ล้านบาท ซึ่งทำให้กำไรทั้งหมดนอกจากจะรับรู้ในทางบัญชีแล้วยังเป็นการรับรู้ในรูปเงินสดอีกด้วย ทำให้บริษัทมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นสามารถนำเงินทุนดังกล่าวไปลงทุนเพิ่มเติมได้

โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานขยะอุตสาหกรรมและธุรกิจโรงคัดแยกขยะ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีผลตอบแทนที่ดีและสามารถต่อยอดธุรกิจไปยังธุรกิจอีกหลายอย่าง โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างจัดทำสัญญาซื้อขายหุ้นและร่วมทุนกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีขนาดลงทุนประมาณ 300 ล้านบาท