Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Tactical Move

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 0.10 จุด (0.01%) ปิดภาคเช้าที่ 1,651.58 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21,528.41 ล้านบาท

Most Positive Impact: AOT (+0.7 จุด), PTTEP (+0.58 จุด), PTTGC (+0.55 จุด)

Most Negative Impact: SCC (-0.94 จุด), BTS (-0.58 จุด), MINT (-0.34 จุด)

ตลาดหุ้นไทยถูกผลักดันโดยกลุ่มปิโตร(+0.82 จุด) พลังงาน(+0.57 จุด) และกลุ่มธนาคาร(+0.51 จุด) ส่วนกลุ่มที่กดดันดัชนี ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง(-1.12 จุด) อาหาร(-0.44 จุด) และกลุ่มพาณิชย์(-0.36 จุด)

ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ญี่ปุ่น(+0.92%) ฮ่องกง(+0.91%) อินเดีย(+0.51%) จีน(+0.45%) เป็นต้น ส่วนตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงได้แก่ ฟิลิปปินส์(-0.17%)

ตลาดหุ้นไทยถูกแรงกดดันจากหุ้น market cap ใหญ่อย่าง SCC ที่ขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันนี้ซึ่งล่าสุดราคาหุ้นปรับตัวลงน้อยกว่าเงินปันผล(ในส่วนของการ XD ส่งผลดัชนี -1.12 จุด) อย่างไรก็ดีตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มปิโตรฯ เช่น PTTGC IVL และหุ้นพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP ที่ช่วยประคองตลาด

รายงานข่าวระบุรองนายกฯหลิว เหอ ของจีนเตรียมการเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐฯในวันนี้ที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งเป็นการพูดคุยหารือต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว โดยการเจรจามีความคืบหน้าในทางบวกและมีโอกาสที่จะบรรลุข้อตกลงได้ในเร็วๆนี้

แนวโน้มตลาดบ่าย

มองตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายแกว่งตัวในกรอบ 1,645-1,655 จุด เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น ทั้งนี้ยังมองตลาดอยู่ในช่วงของการแกว่งตัวขึ้นโดยมีปัจจัยเร่งในระยะถัดไปจากการเจรจาข้อพิพาทการค้าสหรัฐฯ-จีนในสัปดาห์นี้

ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้วันนี้ฝั่งสหรัฐฯจะมีการรายงานสินค้าคงคลังน้ำมันดิบประจำสัปดาห์โดยตลาดมองว่าจะลดลง 4.25 แสนบาร์เรล วันพฤหัสฯติดตามรายงานการประชุมนโยบายการเงินของ ECB สุดท้ายวันศุกร์ติดตามอัตราการว่างงานเดือนมี.ค.ของสหรัฐฯคาดการณ์อยู่ที่ 3.8%

หุ้นแนะนำ AMATA CPALL MEGA