Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย
Tactical Move เดินเกมกลยุทธ์บ่าย SET Index ปรับลดลง -5. …
Tactical Move
เดินเกมกลยุทธ์บ่าย
SET Index ปรับลดลง -5.04 จุด (-0.31%) ปิดภาคเช้าที่ 1,644.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18,360.91 ล้านบาท
Most Positive Impact: OSP (+0.22 จุด), CPF (+0.21 จุด), BAY (+0.18 จุด)
Most Negative Impact: PTT (-0.7 จุด), PTTEP (-0.58 จุด), CPN (-0.55 จุด)
ตลาดหุ้นไทยถูกกดดันโดยกลุ่มพลังงาน(-2.10 จุด) อสังหาฯ(-1.28 จุด) สื่อสาร(-0.57 จุด) และกลุ่มพาณิชย์(-0.43 จุด) ส่วนกลุ่มที่ผลักดันดัชนีมาจาก กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (+0.11 จุด)
ตลาดหุ้นต่างประเทศเคลื่อนไหวสลับทิศทางกัน โดยตลาดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ จีน(+ 0.71%) เกาหลี(+0.19%) อินโดนีเซีย(+0.19%)เป็นต้น ส่วนตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงได้แก่ ออสเตรเลีย(-0.76%) ฟิลิปปินส์(-0.59%) อินเดีย(-0.16%)
ทางทำเนียบขาวของสหรัฐฯเปิดเผยว่า ปธน.ทรัมป์ วางแผนจะพูดคุยกับรองนายกหลิว เหอ ของจีน ซึ่งหากข้อตกลงดังกล่าวเป็นผลสำเร็จแล้วก็จะนำไปสู่พิธีลงนามระหว่างปธน. ทรัมป์ ของสหรัฐ กับปธน.สี จิ้นผิง ของจีน
ทั้งนี้รายงานข่าวมีการพูดถึงข้อตกลงว่าจะให้เวลาจีนถึงปี 2568 ในการเพิ่มการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เช่น ถั่วเหลือง และจีนจะต้องเปิดโอกาสให้บริษัทสหรัฐฯที่ทำธุรกิจในจีนนั้นเป็นเจ้าของบริษัทได้ 100% โดยหากจีนไม่ดำเนินการตามเวลาที่กำหนดสหรัฐฯก็จะใช้มาตรการตอบโต้ ซึ่งแม้ว่าระยะเวลาในการปฏิบัติตามข้อตกลงจะถือเป็นเรื่องในระยะยาว แต่ในระยสั้นนี้ตลาดต้องการเห็นการบรรลุข้อตกลงกันให้ได้ก่อน ดังนั้นจึงยังคงมองว่าการเจรจาข้อพาทการค้าในระยะนี้จะยังคงเป็นประเด็นสำคัญต่อตลาด
แนวโน้มตลาดบ่าย
มองตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายแกว่งตัวในกรอบ 1,640-1,650 จุด เนื่องจากอยู่ระหว่างรอซึมซับปัจจัยใหม่ คาดว่าพรุ่งนี้จนถึงต้นสัปดาห์หน้าจะเห็นข่าวบวกจากการเจรจาข้อพิพาทการค้าหลังการพบปะกันของปธน.ทรัมป์ และรองนายกหลิว เหอ ซึ่งเป็นประเด็นที่จะมาช่วยผลักดันตลาด
ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตามวันนี้ติดตามรายงานการประชุมนโยบายการเงินของ ECB สุดท้ายวันศุกร์ติดตามอัตราการว่างงานเดือนมี.ค.ของสหรัฐฯคาดการณ์อยู่ที่ 3.8%
หุ้นแนะนำ AMATA ERW TOP