สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 เม.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังชะลอการซื้อขายก่อนที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยผลประกอบการในวันศุกร์ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,143.05 จุด ลดลง 14.11 จุด หรือ -0.05% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,947.36 จุด ลดลง 16.88 จุด หรือ -0.21% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,888.32 จุด เพิ่มขึ้น 0.11 จุด หรือ +0.00%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่สหภาพยุโรป (EU) อนุมัติให้อังกฤษเลื่อนกำหนดการถอนตัวออกจาก EU (Brexit) และตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของยุโรปที่ระบุว่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจยูโรโซน

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.06% ปิดที่ 386.91 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,485.72 จุด เพิ่มขึ้น 35.84 จุด หรือ +0.66% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,935.20 จุด เพิ่มขึ้น 29.29 จุด หรือ +0.25% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,417.95 จุด ลดลง 3.96 จุด หรือ -0.05%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.)  เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ซึ่งกดดันหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ ขณะที่หุ้นกลุ่มประกันปรับตัวลงจากการขึ้นเครื่องหมาย XD อย่างไรก็ดี ข่าวสหภาพยุโรป (EU) ขยายกำหนดเวลาการถอนตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit) ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบิน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,417.95 จุด ลดลง 3.96 จุด หรือ -0.05%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทยังขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 20.60 ดอลลาร์ หรือ 1.57% ปิดที่ 1,293.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 37.7 เซนต์ หรือ 2.47% ปิดที่ 14.867 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 13.60 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 895.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ดิ่งลง 30.60 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 1,332.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เตือนว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันดิบ พร้อมระบุว่า ความต้องการน้ำมันของประเทศในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) อาจลดลงในไตรมาสแรกปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 63.58 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 90 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 70.83 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 เม.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดรอบเกือบ 50 ปี และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 5 ปี

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.67 เยน จากระดับ 110.97 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0036 ฟรังก์ จากระดับ 1.0025 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3380 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3323 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1255 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1270 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.3056 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3082 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7118 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7165 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button