Uber ยื่นไฟลิ่งขาย “ไอพีโอ” 3 แสนล้านฉลุย ฟากโบรกฯคาดผลงานปี 62 ไร้กำไรเซ่นรายได้ลดฮวบ!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (11 เม.ย.62) Uber Technologies Inc หรือ Uber ผู้ให้บริการระบบเรียกรถผ่านแอปพลิเคชั่นยักษ์ใหญ่ก่อตั้งขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ที่มีผู้ใช้งานอยู่ราว 91 ล้านคน ได้ยื่นไฟลิ่งเพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มูลค่าราว 10 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3 แสนล้านบาท ก่อนจะเดินหน้าให้ข้อมูลนักลงทุน (โรดโชว์) และทำการเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 2/62

อย่างไรก็ตาม เอกสารงบการเงินที่ Uber แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า “ค่าดำเนินการมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นมากในไม่กี่ปีข้างหน้านี้” แสดงให้เห็นว่าบริษัทยังไม่มีทีท่าว่าจะเห็นกำไรในเร็วๆ นี้

นอกจากนั้นบริษัทยังขาดทุนจากการดำเนินงานถึง 3.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2561 อีกด้วย จากรายได้ทั้งหมด 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 42% จากปี 2060 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตถึง 106% ของปีก่อนหน้านั้น จึงทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่าธุรกิจของ Uber นั้นเริ่มที่จะเติบโตช้าลงแล้ว

อีกทั้ง Uber ยังต้องเผชิญกับบริษัทคู่แข่งที่กำลังมาแรงอย่าง Lyft Inc. ที่ให้บริการในลักษณะเดียวกัน และเพิ่งเข้าจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ไปเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ถึงแม้ตัวเลขรายได้และผู้ใช้งานจะยังค่อนข้างกันก็ตาม

โดยในปี 2561 Uber มีผู้ใช้งาน 91 ล้านคน ในขณะที่ Lyft มี 30.7 ล้านคน ส่วนรายได้นั้น Uber มีรายได้ 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน Lyft มีรายได้ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนั้น Uber ยังมีการให้บริการประมาณ 700 เมือง (ทั่วโลก) ในขณะที่ Lyft เปิดให้บริการประมาณ 300 เมืองเฉพาะในสหรัฐ และแคนนาดา ส่วนตัวเลขการเรียกใช้งานของ Uber อยู่ที่ 5.2 พันล้านครั้ง ส่วน Lyft อยู่ที่ 619 ล้านครั้ง