ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
สรุปตลาดภาคเช้า
ตลาดภาคเช้าปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดรอบบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับตลาดไทยถูกมุมมองของผลประกอบการ 2Q58 ของกลุ่มธนาคารกดดัน ต่อเนื่องจากวันก่อน โดยกลุ่ม Bank ปรับตัวลดลง 2.34% ขณะที่ Setปิดตลาดภาคเช้าดัชนีเปลี่ยนแปลง –7.80 จุด (-0.52%) มาอยู่ที่ 1,496.75 จุด มูลค่าการซื้อขาย 2.3 หมื่นล้านบาท
แนวโน้ม ภาคบ่าย
ประเมินดัชนีคาดว่าจะปรับตัวลดลงต่อ โดยเราคงแนะนำให้เพิ่มน้ำหนักพอร์ต โดยมองช่วงสะสะมหุ้นคืนที่ระดับ 1,480-1,500 จุด แนะนำทยอยสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น CK, STEC และ ITD โดยคาดหวัง Catalyst จากงานโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งจะทยอยประกาศความคืบหน้าในช่วง 2H58
วิเคราะห์ทางเทคนิค
BGT ราคาปิด 1.33 บาท
แนวรับ 1.31 บาท แนวต้าน 1.40, 1.60 บาท
แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 1.29 บาท
กราฟ BGT ตัดผ่านเส้น 25 วัน และทดสอบเส้น 75 วันอีกครั้งหนึ่ง หากผ่านไปได้จะมีสัญญาณซื้อที่รุนแรงไปยัง 1.40-1.60 บาทได้ไม่ยาก ขณะที่ MACD กำลังโค้งตัววิ่งผ่านแนวศูนย์บ่งบอกว่าเตรียมเป็นขาขึ้นเต็มตัว ดังนั้นแนะนำซื้อเก็งกำไรและ follow buy มากขึ้นหากผ่าน 1.40 บาท
เด็กแนว
– SPPT ผู้ผลิตและรับจ้างผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์อิเล็คขนาดเล็ก ที่ระยะหลังมีข่าวแปลกๆ หลายเรื่อง เช่น จะถูกมือดีมา backdoor โดยเป็นบริษัทอิเล็คโทรนิคส์ในตลาดที่ใหญ่กว่า เมื่อถามผู้บริหารก็ไม่ค่อยรับกัน มาเห็นอีกทีเมื่อประกาศข่าวแล้ว อันนี้ต้องให้เวลาพิสูจน์ แต่ราคาหุ้นถูกเก็บไปพอควรช่วง 2-3 เดือนที่ผรนมา แต่สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นจริงกับบริษัทนี้ก็คือการปรับโครงสร้างธุรกิจ นอกจากจะทำงานปกติแล้ว บริษัทประกาศเข้าทำโรงไฟฟ้าขยะกะเขาด้วย เบื้องต้นคาดว่าจะมีการเซ็นต์สัญญาประมาณ 4 MW เด็กแนวว่าคงจะเป็นช่วงต้นเดือนกรกฎาคมเนียะน่าจะมีข่าวดี และยังไม่นับการเข้าไปร่วมธุรกิจโรงไฟฟาชีวะมวลอีกด้วย รอฟังข่าวว่าจะเซ็นต์ความร่วมมือ หรือ MOU กันเมื่อไร โรงไฟฟ้าขนาดไม่ใหญ่ไม่ต้องเพิ่มทุนก็ได้ โดยปกติแล้วกำไรจากโรงไฟฟ้าขยะนี้อยู่ที่ 20-30 ล้านบาทต่อ MW ยังไม่นับรวมรายได้จากการรับกำจัดขยะด้วย ต่อไป SPPT ก็จะมีกำไรระยะยาวเกิดขึ้นต่อปีอีก 100-120 ล้านบาท และหากถือหุ้นแค่ 60% จะมีกำไรต่อปีไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าพื้นฐานเฉพาะขยะอยู่ที่ 5.20 บาท ไม่นับมูลค่าอิเล็กทรอนิกส์
มาดูกราฟกันแล้วจะเห็นอะไรดีๆ ไม่น้อย ราคาหุ้นฟอร์มตัวเป็นถ้วยหงายใบใหญ่มาก ช่วงเดือนเมษา-พฤษภาที่ผ่านมาเกิดกลุ่มราคาเหวี่ยงตัวขึ้นลง ช่วงนั้นมีโวลุ่มหนาคล้ายถูกสะสมหุ้น แม้จะเหวี่ยงตัวแรงแต่รักษาฟอร์ม Bell Curve นี้ไว้ได้และตามทฤษฎีกราฟแล้วภายในปีนี้ควรจะวิ่งไปยังปีกขวาหรือเห็นแถว 5 บาทสอดคล้องกับราคาเป้าหมายที่เด็กแนวประเมินเบื้องต้น ดูแบบนี้แล้วต้องบอกว่าสะสมไว้อย่างใจเย็น เพราะอาจจะให้ผลตอบแทนไม่น้อยกว่า 50% เลย