“โนมูระฯ” แนะซื้อ ZEN ประเดิมเคาะเป้า 19 บ. รับจุดแข็งกำไรโตเด่น-ธุรกิจรีเทิร์นสูง
"โนมูระฯ"ชู ZEN กำไรโตเด่น ประเดิมเคาะเป้า 19 บ.รับจุดแข็งแบรนด์แกร่ง-รีเทิร์นสูง
บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (18 เม.ย.2562) ว่า บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN เป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร โดยปัจจุบันมี 255 สาขา (ร้านตนเอง 110 แห่ง แฟรนไชส์ 145 แห่ง) น่าสนใจหลายๆด้านจากมีแบรนด์แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่น (ZEN ,AKA,On The table) และมียอดขายต่อร้านสูงระดับเดียวกับ M และยอดขายสาขาเดิม (SSSG) 2 ปีหลังเพิ่มเฉลี่ย 4% ต่อปี
ขณะที่มีการกระจายความเสี่ยงได้ดี ผ่านแบรนด์หลากหลาย หลายกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสทั้งในกทม. ผ่านอาหารญี่ปุ่นและต่างจังหวัดผ่านแบรนด์ร้านอาหารไทย (ตำมั่ว ลาวญวน เฝอ แจ่วฮ้อน) และมีทั้งเปิดสาขาด้วยตนเอง และแบบแฟรนไชส์ ช่วยลดความเสี่ยง นอกจากนี้มีอำนาจต่อรองสูง และสายป่านยาวของกลุ่มถือหุ้น (จิราธิวัฒน์) อีกทั้งกำลังเปิดร้านอาหารไทยสตรีทฟู้ดแบรนด์ “เขียง” ซึ่งดูมีความเสี่ยงต่ำ (ลงทุนต่ำ+เน้นปล่อยแฟรนไชส์) แต่มีขนาดตลาดที่ใหญ่
ทั้งนี้มองว่าถึงแม้ภาพอุตสาหกรรมมีการแข่งขันสูง กดดันยอดขายสาขาเดิม ซึ่งกำหนดเพียง 1% ในปีนี้ แต่ด้านการเปิดสาขาใหม่จะส่งผลบวกมากกว่าทุกบริษัทในกลุ่มจากแผนงาน 2 ปีนี้เชิงรุกมาก เป้าเพิ่มสาขากว่าเท่าตัว โดยวางแผนเปิดในปี 2562-2563 มากถึง 123,225 แห่งตามลำดับ แบ่งเป็นร้านตัวเองและแฟรนไชส์ 36/87 และ 50/175 ซึ่งกำหนดแผนเปิดไว้ที่ 63 แห่ง หรือ 51% ของเป้าหมายบริษัท ใกล้เคียงกับที่ Secured location แล้ว และกำหนดรายได้จากแฟรนไชส์ที่ราว 6 แสนบาท/ปี/สาขา โดยรวมคาดรายได้ปีนี้เพิ่ม 8% รวมถึงจะเห็นดอกเบี้ยจ่ายลดลงอย่างมีนัยสำคัญกว่า 20 ล้านบาท จากการชำระหนี้หลัง IPO
นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายขายและบริหารต่อยอดขายจะเริ่มเห็นผลบวกหลังผ่านช่วงปรับโครงสร้างองค์กรในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยรวมประเมินกำไรปีนี้เพิ่ม 30% และ 3 ปี CAGR 25% โดยภาพระยะสั้นคาดจะเห็น Norm profit เพิ่มจากปีก่อน ในทุกไตรมาส แต่ Net profit ไตรมาส 2 ปี 62 อาจจะลดลงจากปีก่อนจากฐานปีก่อน มีกำไรพิเศษ และจะเติบโตแรงในครึ่งปีหลังของปี 62 จากเริ่มเปิดสาขามาก และส่วนใหญ่เป็นแฟรนไชส์ซึ่งรายได้ค่าแรกเข้าช่วงแรกสูง รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายลดลง
ทั้งนี้มองว่า ZEN ยังมีการถือครองต่ำ (Under owned) และซื้อขายในจุดที่ยังเหมาะสม กำหนดมูลค่าพื้นฐานอิง DCF ที่ 19 บาท คิดเป็น Implied P/E Ratio ปี 62 ที่ 31 เท่า เทียบกับกลุ่มซึ่งอยู่ในกรอบ 24-40 เท่า มองว่ายังเหมาะสมจากแนวโน้มกำไรโตสูงสุดในกลุ่ม ฐานกำไรเล็ก แต่มีแบรนด์แข็งแกร่ง และปัจจุบันยังซื้อขายใกล้เคียงกลุ่ม PER ที่ 24 เท่า แนะนำซื้อ