หุ้นยุโรปปิดปรับลง ขณะนักลงทุนจับตาการลงประชามติกรีซ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการลงประชามติของกรีซในวันอาทิตย์นี้ โดยรัฐบาลกรีซต้องการให้ประชาชนเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะรับเงื่อนไขในมาตรการรัดเข็มขัดจากเจ้าหนี้หรือไม่
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวานนี้ (2 ก.ค.) ที่ 4,835.56 จุด ลดลง 47.63 จุด หรือ -0.98%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,099.35 จุด ลดลง 81.15 จุด หรือ -0.73% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,630.47 จุด เพิ่มขึ้น 21.88 จุด หรือ +0.33%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของกรีซ หลังจากที่การประชุมรัฐมนตรีคลังยุโรป หรือยูโรกรุ๊ป ได้เสร็จสิ้นลงโดยไม่มีการทำข้อตกลงใดๆเกี่ยวกับหนี้สินของกรีซ ขณะที่กลุ่มเจ้าหนี้ยูโรโซนยืนยันว่า จะยังไม่มีการเจรจาใดๆในช่วงนี้ จนกว่าการทำประชามติของกรีซเกี่ยวกับการรับหรือไม่รับเงื่อนไขในมาตรการรัดเข็มขัดจากทางเจ้าหนี้จะเสร็จสิ้นลงในวันอาทิตย์นี้
นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการลงประชามติดังกล่าว ขณะที่นายโปรโคปิส ปาฟโลปูลอส ประธานาธิบดีกรีซ แสดงจุดยืนในรัฐสภาในการสนับสนุนมาตรการรัดเข็มขัดตามเงื่อนไขของเจ้าหนี้เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน โดยกล่าวว่า ทางเลือกเดียวของกรีซคือการอยู่ในยุโรป และอยู่ในยูโรโซน
ด้านนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ได้กล่าวทางสถานีโทรทัศน์ของกรีซ ชักชวนให้ชาวกรีซโหวต “No” ในการทำประชามติเพื่อแสดงท่าทีคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด แต่ถ้าหากชาวกรีซเลือกที่จะโหวต “Yes” ในการสนับสนุนมาตรการดังกล่าว เขาก็จะเคารพผลการลงประชามตินั้น ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่า นายซิปราสอาจจะลาออกจากตำแหน่ง และปูทางสำหรับการเลือกตั้งครั้งใหม่ เนื่องจากรัฐบาลของเขาไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. จากระดับ 254,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งตัวเลขจ้างงานเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 233,000 ตำแหน่ง
หุ้นอิเล็คโทรลักซ์ร่วงลง 11% หลังจากมีรายงานข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐขัดขวางอิเล็คโทรลักซ์ไม่ให้เทคโอเวอร์ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัทเจนเนอรัล อิเล็กทริก ส่วนหุ้น K+S ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายแร่โปรแตชของเยอรมนี ดิ่งลง 12% หลังจาก K+S ปฏิเสธข้อเสนอเทคโอเวอร์จากบริษัทโปรแตช คอร์ป