สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 เม.ย.62

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นหลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,559.54 จุด เพิ่มขึ้น 110.00 จุด หรือ +0.42% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,905.03 จุด เพิ่มขึ้น 4.58 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,998.06 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด หรือ +0.02%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากแรงซื้อคืนก่อนวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ เนื่องในเทศกาลอีสเตอร์ และการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนช่วยหนุนตลาดด้วย แม้ตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนต่ำสุดในรอบ 3 เดือนก็ตาม

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.22% ปิดที่ 390.46 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,580.38 จุด เพิ่มขึ้น 17.29 จุด หรือ +0.31%หรือ +0.36% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,222.39 จุด เพิ่มขึ้น 69.32 จุด หรือ +0.57% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 77,459.88 จุด ลดลง 11.44 จุด หรือ -0.15%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มธนาคาร แม้หุ้นยูนิลีเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งขึ้น หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกออกมาดีเกินคาดก็ตาม นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนที่ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,459.88 จุด ลดลง 11.44 จุด หรือ -0.15%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ เปิดเผยรายงานล่าสุดว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนลดลงในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 64.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 71.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 1 ปี

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 1,276.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.6 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 14.955 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 12.4 ดอลลาร์ หรือ 1.39% ปิดที่ 903.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 19.90 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1,398.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงหลังจากไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1230 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1298 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2988 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3038 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7146 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7169 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0153 ฟรังก์ จากระดับ 1.0104 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3386 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3343 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.94  เยน จากระดับ 112.06 เยน