“สรรพากร” จ่อเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15% ปิดช่องคนรวยเลี่ยงภาษี มีผล 15 พ.ค.นี้
“สรรพากร” จ่อเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15% ปิดช่องคนรวยเลี่ยงภาษี มีผล 15 พ.ค.นี้
จากกรณีมีกระแสข่าวว่า กรมสรรพากร เตรียมที่จะเก็บภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก 15% ไม่ว่าบัญชีนั้นจะได้ดอกเบี้ยถึง 20,000 บาทหรือไม่ หลังจากที่กรมสรรพากรได้ผ่อนผันสำหรับบัญชีที่ได้ดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาทไม่ต้องเสียภาษี โดยจะเริ่มมีผลในวันที่ 15 พ.ค.นี้
ล่าสุด นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า กรมสรรพากรต้องการแก้ไขปัญหาการหลบเลี่ยงภาษีของผู้ที่มีเงินฝากสูงเกิน 4 ล้านบาท ที่จะมีรายได้จากดอกเบี้ยเกิน 20,000 บาทต่อปี
โดยที่ผ่านมา มีบางสถาบันการเงินบางแห่งเอื้อประโยชน์ให้ลูกค้ารายใหญ่หลบเลี่ยงภาษี ณ ที่จ่าย 15% ด้วยการปิดบัญชีเมื่อรายได้จากดอกเบี้ยใกล้ถึง 20,000 บาท ก่อนไปเปิดบัญชีใหม่ และกระจายแยกบัญชีออกจากกัน และเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวกระทบกับผู้มีบัญชีออมทรัพย์รายใหญ่มากกว่าประชาชนรายย่อย และกฎหมายที่ประกาศออกมาเป็นกฎหมายเก่าที่มีมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
ด้านนายปิ่นสาย สุรัสวดี โฆษกกรมสรรพากร ระบุว่า ก่อนที่ประกาศที่ออกมาได้หารือกับสถาบันการเงินมากว่า 2 ปี และจากนี้ไปสถาบันการเงินจะต้องไปหาแนวทาง จัดส่งข้อมูลดอกเบี้ยของบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้ามาให้กรมสรรพากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์มาให้ปีละ 2 ครั้ง คือ เดือน พ.ค. และ เดือน พ.ย. เพื่อนำรายได้จากดอกเบี้ยดังกล่าวมาคำนวณภาษี และเสียภาษีในช่วงสิ้นปี
ทั้งนี้ระหว่างนี้ขอให้ประชาชนที่บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ยินยอมสถาบันการเงินที่มีเงินฝากอยู่ทุกแห่งให้จัดส่งข้อมูลทางบัญชีให้กรมสรรพากร เพราะหากไม่ดำเนินการ ผู้ฝากทุกรายจะมีภาระการเสียภาษี ณ ที่จ่าย จากรายได้จากดอกเบี้ย 15% ทันทีโดยอัตโนมัติ แม้รายได้ดังกล่าวไม่เกิน 20,000 บาท แต่สามารถขอคืนภาษีดังกล่าวในช่วงปลายปี
อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชนทั่วไปที่ได้รับดอกเบี้ยไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี สามารถขอยกเว้นการเสียภาษีดอกเบี้ย ณ ที่จ่าย 15% ได้ โดยการลงทะเบียนที่ธนาคาร เพื่อยินยอมให้ส่งข้อมูลการรับดอกเบี้ยให้สรรพากร ซึ่งจะเริ่มมีผลในวันที่ 15 พ.ค.62