“มิ่งขวัญ” ยันไม่ร่วมรัฐบาล ”พรรคพลังประชารัฐ” ย้ำชัดอุดมการณ์ต่างกัน
“มิ่งขวัญ” ยันไม่ร่วมรัฐบาล ”พรรคพลังประชารัฐ” ย้ำชัดอุดมการณ์ต่างกัน
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ เปิดแถลงข่าวในวันนี้(19เม.ย.62) โดยยืนยันว่าจะไม่รวมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะมีอุดมการณ์ต่างกัน แต่ไม่ได้มีความโกรธเคืองกัน ดังนั้น ตนจะไม่สนับสนุนรายชื่อนายกรัฐมนตรีที่พรรคพลังประชารัฐเป็นผู้เสนอ
พร้อมทั้งระบุว่า ได้ยืนยันหลักการเช่นนี้มาโดยตลอดนับตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.62 เพราะมีอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกัน ซึ่งจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุดมการณ์ โดยยินดีที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายประชาธิปไตย และทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต หากเกิดปัญหาในภายหลังก็พร้อมที่จะออกจากรัฐบาลทันที
สำหรับข้อตกลงที่มีกับพรรคเพื่อไทยนั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง และไม่ได้มีปัญหากัน แต่ที่ไม่ได้ไปร่วมงานแถลงข่าวลงสัตยาบัน เพราะติดนัดกับผู้ใหญ่ โดยยืนยันว่าตนเองไม่เคยเปลี่ยนแปลงจุดยืนทางการเมือง พร้อมระบุว่าตนเองมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งช่วงเดือนหน้าจะมีพระราชพิธีสำคัญของคนไทยทั้งชาติ
“ชัดเจน ไม่เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ต้นจนจบ” นายมิ่งขวัญ ย้ำถึงจุดยืนทางการเมืองที่จะอยู่กับฝั่งพรรคเพื่อไทย
นายมิ่งขวัญ กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกพรรคยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคเศรษฐกิจใหม่เนื่องจากถูกบุคคลภายนอกครอบงำพรรคว่า การทำงานในพรรคนั้นตนเองจะรับผิดชอบดูแลเกี่ยวกับการจัดทำนโยบายเท่านั้น ส่วนการดูแลเรื่องกิจการภายในพรรคหรือการคัดเลือกตัวผู้สมัครมอบหมายให้นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 เป็นผู้รับผิดชอบ
“ผมรับผิดชอบเรื่องนโยบายเท่านั้น แต่เมื่อเป็นหัวหน้าพรรคก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดทุกเรื่อง ตนเองไม่ทราบว่ากรณีดังกล่าวมีเบื้องหน้า-เบื้องหลังหรือไม่ และคงไม่ได้สืบสวนหาข้อเท็จจริงอะไร เป็นหน้าที่ของ กกต.”นายมิ่งขวัญ กล่าว
ด้านนายสุภดิช กล่าวว่า ไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหาดังกล่าว เพราะพรรคไม่มีนายทุน และผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าครอบงำพรรคนั้นก็เป็นสมาชิกพรรคและมีพี่ชายเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
“พรรคไม่ได้ทำอะไรผิดเลยตามข้อบังคับทั้ง 21 ข้อ” นายสุภดิช กล่าว
พร้อมทั้งชี้แจงว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในกลุ่มเพื่อนที่ต้องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีตนเองเป็นหัวหน้าพรรคคนแรก และใช้เงินส่วนตัว ต่อมาเห็นว่านายมิ่งขวัญมีคุณสมบัติที่เหมาะสมจึงไปเชิญมาเป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าพรรคไม่ได้มีการปราศรัย หรือปิดประกาศมากมายเหมือนพรรคการเมืองอื่น เพราะมีงบประมาณจำกัด
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าสถานภาพของพรรคยังคงมีความเป็นเอกภาพ และจะไม่เกิดปัญหางูเห่าเกิดขึ้นภายในพรรคอย่างแน่นอน
นายสุภดิช กล่าวว่า พรรคไม่ได้มีการเจรจากับผู้ที่ยื่นเรื่องต่อ กกต.ส่วนแนวทางการดำเนินการต่อไปนั้นคงต้องหารือรายละเอียดกับฝ่ายกฎหมายก่อน แต่ล่าสุดได้มีสมาชิกพรรค 3 รายขอถอนชื่อออกจากการเป็นพยานของคำร้องดังกล่าว เนื่องจากไม่ทราบมาก่อนว่าจะเป็นการไปยื่นเรื่องต่อ กกต.ขอให้ยุบพรรค