สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 เม.ย.62

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (26 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาสแรกของสหรัฐที่ดีเกินคาด และการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งได้ช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มชิพ หลังบริษัทอินเทลคาดการณ์รายได้ปี 2562 ต่ำกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,543.33 จุด เพิ่มขึ้น 81.25 จุด หรือ +0.31% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,939.88 จุด เพิ่มขึ้น 13.71 จุด หรือ +0.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,146.40 จุด เพิ่มขึ้น 27.72 จุด หรือ +0.34%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (26 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง และสหรัฐรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาสแรก

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.22% ปิดที่ 391.01 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,569.36 จุด เพิ่มขึ้น 11.70 จุด หรือ +0.21% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,315.18 จุด เพิ่มขึ้น 32.58 จุด หรือ +0.27% ขณะที่ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,428.19 จุด ลดลง 5.94 จุด หรือ -0.08%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (26 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากหุ้นเกล็นคอร์ที่ร่วงลงจากข่าวการสอบสวนของสหรัฐอีกครั้ง ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน และรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวังถ่วงหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) และหุ้นจัสต์ อีท ร่วงลง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,428.19 จุด ลดลง 5.94 จุด หรือ -0.08%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (26 เม.ย.) เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าลง แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาสแรก

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 9.10 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,288.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. บวก 12.60 เซนต์ หรือ 0.85% ปิดที่ 15.005 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 13.90 ดอลลาร์ หรือ 1.56% ปิดที่ 903.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 40.30 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 1,447.20  ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (26 เม.ย.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้เรียกร้องให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดราคาน้ำมันดิบลง ซึ่งก็จะทำให้ราคาน้ำมันเบนซินลดลงในสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 1.91 ดอลลาร์ หรือ 2.90% ปิดที่ 63.30 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 2.20 ดอลลาร์ หรือ 3.00% ปิดที่ 72.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (26 เม.ย.) หลังจากบรรดาเทรดเดอร์ปรับตัวรับการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.21% สู่ระดับ 98.0011

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1154 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1128 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าแตะระดับ 1.2925 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2893 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7039 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7010 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.61 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0191 ฟรังก์ จากระดับ 1.0210 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3461 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3487 ดอลลาร์แคนาดา