BPP โชว์กำไรไตรมาส 1/62 พุ่งกระฉูด 167% มาที่ 1.25 พันลบ. รับรายได้โตแกร่ง
BPP โชว์กำไรไตรมาส 1/62 พุ่งกระฉูด 167% มาที่ 1.25 พันลบ. จากปีก่อนกำไร 469.91 ลบ. รับรายได้โตแกร่ง
บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/62 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 62 มีกำไรสุทธิดังนี้
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกดล่าว มีผลกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้รวมของบริษัทฯ จำนวน 1,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ประกอบด้วยรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมทั้ง 3 โรง จำนวน 1,605 ล้านบาท และรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศจีนจำนวน 159 ล้านบาท จากความต้องการใช้ไฟฟ้าและไอน้ำที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 1 ทำให้ปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 6% และไอน้ำเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหลักมาจากภาคครัวเรือน
นอกจากนี้สภาวะราคาถ่านหินที่อ่อนตัวลงในช่วงต้นปี เป็นผลบวกต่อบริษัทฯ โดยส่งผลให้ราคาต้นทุนถ่านหินเฉลี่ยอยู่ที่ 619 หยวนต่อตัน ลดลง 3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และลดลง 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า จึงมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 24% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 20% และรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา จากความเข้มข้นของแสงแดดที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย
อีกทั้งส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมค้า จำนวน 1,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และลดลงเล็กน้อยที่ 1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ส่วนใหญ่มาจากโรงไฟฟ้าหลักทั ้ง 2 แห่งอัน ได้แก่ โรงไฟฟ้าหงสา และ บีแอลซีพีโดยโรงไฟฟ้าหงสามีการหยุดเดินเครื่องเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพประจำปีของหน่วยผลิตที่ 1 จำนวน 18 วัน ในขณะที่หน่วยผลิตที่ 2 สามารถดำเนินงานได้เป็นอย่างดี จึงทำให้อัตราความพร้อมจ่ายหรือ EAF โดยรวมอยู่ที่ 81% รายงานส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 734 ล้านบาท ซึ่งได้รวมผลขาดทุนจากการแปลงค่าสกุลเงินแล้วจำนวน 138 ล้านบาท
ในขณะที่โรงไฟฟ้า บีแอลซีพี หลังจากที่ได้ หยุดเดินเครื่องเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพครั้งใหญ่ของทั้ง 2 หน่วยผลิตในไตรมาสที่ 4 ของช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถกลับมาดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราความพร้อมจ่ายที่ 100% และรายงานส่วนแบ่งกำไรจำนวน 387 ล้านบาท ซึ่งได้รวมผลขาดทุนจากการแปลงค่าสกุลเงินแล้วจำนวน 29 ล้านบาท และ ผลบวกจากภาษีเงินได้รอตัดบัญชีจำนวน 79 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงผลการดำเนินงานที่ดีขึ ้นอย่างมีนัยสำคัญ เทียบกับผลขาดทุนจำนวน 46 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า
พร้อมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่นสามารถผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้ทั้งสิ้น 16 กิกะวัตต์ชั่วโมงเพิ่มขึ้นถึง 43% เป็นผลมาจากการการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของ 2 โรงไฟฟ้าคือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Mukawaและ Nari Aizu บวกกับสภาพอากาศที่ดีจึงมีค่าความเข้มข้นของแสงแดดมากขึ้น