BEM วอลุ่มแน่น-บวกเกือบ 3% ทำ “ออลไทม์ไฮ” หลังชนะคดีข้อพิพาท กทพ. รับทรัพย์ 8 พันลบ.
BEM วอลุ่มแน่น-บวกเกือบ 3% ทำ "ออลไทม์ไฮ" หลังชนะคดีข้อพิพาท กทพ. รับทรัพย์ 8 พันลบ. โดย ณ เวลา 10.05 น. อยู่ที่ระดับ 11.40 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.70% สูงสุดที่ระดับ 11.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 237.47 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ณ เวลา 10.05 น. อยู่ที่ระดับ 11.40 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.70% สูงสุดที่ระดับ 11.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 237.47 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ราคาหุ้น BEM ปรับตัวเพิ่มขึ้นรับข่าว ศาลฯยกคำร้อง “กทพ.” ขอเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตฯ คดีปรับค่าผ่านทางด่วนขั้น 2 “เฉลิมมหานคร-ศรีรัช” ส่งผลต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่ BEM จำนวนกว่า 8 พันล้านบาท
อนึ่ง นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการบริษัท BEM เปิดเผยว่า วานนี้ (14 พ.ค. 2562) BEM ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่องผลคำพิพากษาศาลปกครองกลางคดีปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษเฉลิมมหานครและทางพิเศษศรีรัช ปี 2546 ว่า ตามที่คณะอนุญาโตตุลาการได้มีคำชี้ขาดลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 ให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินผลต่างส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางตามประกาศกระทรวงคมนาคม ฉบับลงวันที่ 29 สิงหาคม 2546 กับอัตราค่าผ่านทางที่ถูกต้องตามสัญญา ให้แก่ BEM และ กทพ.ได้ยื่นขอเพิกถอนคำชี้ขาดต่อศาลปกครองกลางนั้น
โดยเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษายกคำร้องของกทพ. ซึ่งขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ เนื่องจากคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่ศาลปกครองจะเพิกถอนได้ตามกฎหมาย โดยผลของคำพิพากษานี้ทำให้คำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 มีผลตามกฎหมาย ผูกพันกทพ.ให้มีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ BEM สรุปดังนี้
1). ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยจำนวน 4,368 ล้านบาท และดอกเบี้ยผิดนัดตามสัญญาโครงการระบบทางด่วน ขั้นที่ 2 ของต้นเงินค่าเสียหาย จำนวน 3,776 ล้านบาท คิดเป็นรายวันนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 เป็นต้นไป จนกว่ากทพ.จะชำระเสร็จสิ้น
2). ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินผลต่างส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทางระหว่างอัตราค่าผ่านทางตามประกาศกระทรวงคมนาคมฉบับลงวันที่ 29 สิงหาคม 2546 กับอัตราค่าผ่านทางที่ถูกต้องตามสัญญา โดยคำนวณตามจำนวนรถยนต์แต่ละประเภทที่ใช้ทางเป็นรายวัน นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 เป็นต้นไป รวมทั้งชำระดอกเบี้ยผิดนัดตามสัญญา ของผลต่างส่วนแบ่งรายได้ค่าผ่านทาง นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 เป็นต้นไป จนกว่ากทพ.จะชำระค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยให้แก่ BEM จนเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ กทพ.สามารถยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
โดยข้อพิพาทนี้เป็นส่วนหนึ่งในข้อพิพาทที่มีการเจรจายุติข้อพิพาทกับกทพ. ซึ่งที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2562 ได้มีมติอนุมัติให้ BEM และบริษัทย่อยยุติข้อพิพาทกับกทพ.โดยการทบทวนและแก้ไขสัญญาสัมปทาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกทพ.ดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)