ดาวโจนส์ดิ่ง 400 จุด หลังสงครามการค้าเดือดฉุดตัวเลขศก.ทรุด-ราคาน้ำมันร่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 23.03 น. ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,383.11 จุด ลดลง 393.50 จุด หรือ 1.53% สูงสุดที่ 25,657.99 จุด ต่ำสุดที่ 25,364.04 จุด เปิดที่ระดับ 25,657.99 จุด

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงหนัก เป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และความต้องการใช้น้ำมัน อีกทั้งราคาน้ำมันยังถูกกระทบจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ขณะเดียวกันความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านที่ได้ผ่อนคลายลงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ฉุดราคาน้ำมันในวันนี้

โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 6.9% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 673,000 ยูนิต ซึ่งยอดขายบ้านลดลงในทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พุ่งขึ้น 11.5% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านใหม่จะลดลง 2.8% สู่ระดับ 675,000 ยูนิตในเดือนเม.ย.

ส่วน ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.9 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 36 เดือน หลังจากแตะระดับ 53.0 ในเดือนเม.ย.

ทั้งนี้การปรับตัวลงของดัชนี PMI ในเดือนพ.ค.ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2555

โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 50.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 116 เดือน จากระดับ 52.6 ในเดือนเม.ย.

ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 50.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 39 เดือน จากระดับ 53.0 ในเดือนเม.ย.

อย่างไรก็ตาม ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว