AMATAV ชี้ผลงานไตรมาส 2 พลิกกำไร ลุยหาพันธมิตรเสริมศักยภาพนิคมฯ-พัฒนาที่อยู่อาศัย

AMATAV ชี้ผลงานไตรมาส 2 พลิกกำไร ลุยหาพันธมิตรเสริมศักยภาพนิคมฯ-พัฒนาที่อยู่อาศัย


นายณัทธร กิจสำเร็จ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิได้ในไตรมาส 2/62 จากไตรมาสแรกขาดทุนสุทธิ 18.38 ล้านบาท โดยบริษัทยังคงรับรู้รายได้จากค่าเช่าและบริการสาธารณูปโภคอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เตรียมรับรู้ยอดขายรอโอน (Backlog) จำนวน 2 เฮกตาร์ หรือราว 12.5 ไร่

พร้อมกันนั้น บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าเพื่อขายสินทรัพย์เป็นโรงงานสำเร็จรูป 2 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ เบียนหัว  คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 2/62 หรือไตรมาส 3/62 โดยจะบันทึกเป็นกำไรพิเศษเข้ามา

ทั้งนี้ AMATAV ยังคงเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ที่ 20 เฮกตาร์ หรือราว 125 ไร่ โดยขณะนี้ความคืบหน้าของการขอใบอนุญาตที่ดินที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ เบียนหัวจากรัฐบาลเวียดนาม ยังอยู่ในกระบวนการ คาดว่าภายในปีนี้จะเริ่มขายที่ดินได้ และจะรับรู้รายได้เข้ามาในปี 63 เนื่องจากยังมีความต้องการอยู่ค่อนข้างมาก อีกทั้งบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าเพื่อขายที่ดินประเภทพาณิชยกรรมที่ด้านหน้านิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ เบียนหัว ขนาด 20,000 ตารางเมตร คาดว่าจะสรุปการขายในช่วงครึ่งปีหลังนี้

สำหรับความคืบหน้าการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ลองถั่น ปัจจุบันบริษัทได้เข้าไปดำเนินการเฟสแรกแล้ว แต่อยู่ระหว่างขอใบอนุญาตก่อสร้างคาดว่าจะได้รับภายในครึ่งปีหลังและเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ ต่อจากนั้นก็จะเริ่มทำสัญญากับลูกค้า

ส่วนการพัฒนาโครงการทาวน์ชิพนั้น บริษัทได้ขออนุมัติเพิ่มทุนเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดการพัฒนาโครงการ เบื้องต้นมีความต้องการนำคอนเส็ปต์ Smart City

นอกจากนี้ กระบวนการเวนคืนที่ดินนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง เฟสแรกจำนวน 123 เฮกตาร์นั้น รัฐบาลเวียดนามได้เวนคืนที่ดินใกล้ครบหมดแล้ว คาดว่าภายในปีนี้จะเริ่มพัฒนาและเริ่มขายได้ น่าจะมีรายได้เข้ามาในปี 63

“ในภาพรวมเรายังมองว่าในประเทศเวียดนามยังมีดีมานด์ที่ดีอยู่ แต่จะมีการติดขัดในเรื่องของที่ดินที่มีความเกี่ยวข้องกับการเวนคืนและการขอใบอนุญาต ทำให้ในปีนี้รายได้หลักจะมาจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ เบียนหัวเป็นหลัก และการรับรู้รายได้ของพาณิชยกรรมที่จะเข้ามาชดเชยส่วนที่อาจจะไม่มีรายได้เพิ่มขึ้นคือในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมฯ อื่นๆ ทำให้คาดว่าในปีนี้รายได้น่าจะใกล้เคียงปีก่อน”นายณัทธร กล่าว

ขณะที่บริษัทยังอยู่ระหว่างมองหาพันธมิตรที่เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น (Local Developer) รายใหญ่ เข้ามาเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจทั้งในด้านนิคมอุตสาหกรรม, พาณิชยกรรม หรือพัฒนาที่อยู่อาศัย และด้านการบริการ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 62-63

Back to top button