สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 พ.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 พ.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จะจบลงอย่างรวดเร็ว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,585.69 จุด เพิ่มขึ้น 95.22 จุด หรือ +0.37% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,826.06 จุด เพิ่มขึ้น 3.82 จุด หรือ +0.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,637.01 จุด เพิ่มขึ้น 8.73 จุด หรือ +0.11%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จะจบลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตลาดดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการที่นางเทเรซา เมย์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมแล้ว หลังจากประสบความล้มเหลวในความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะขอการสนับสนุนจากรัฐสภาอังกฤษสำหรับข้อตกลงการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.56% ปิดที่ 375.89 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,316.51 จุด เพิ่มขึ้น 35.15 จุด หรือ +0.67% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,011.04 จุด เพิ่มขึ้น 58.63 จุด หรือ +0.49%ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,277.73 จุด เพิ่มขึ้น 46.69 จุด หรือ +0.65%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐกล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน จะจบลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ตลาดปรับตัวรับข่าว นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม โดยจะมีผลในวันที่ 7 มิ.ย.นี้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,277.73 จุด เพิ่มขึ้น 46.69 จุด หรือ +0.65%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 58.63  ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 68.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,283.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 5.8 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 14.555ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.34 ดอลลาร์ หรือ 0.43% ปิดที่ 802.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 17.90 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1,325.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (24 พ.ค.) ขณะที่ข้อมูลภาคการผลิตที่น่าผิดหวังของสหรัฐ และความตึงเครียดด้านการค้าโลก ทำให้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และ แนวโน้มของดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.28% แตะที่ 97.5810 เมื่อคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.33 เยน จากระดับ 109.47 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0014 ฟรังก์ จากระดับ 1.0027 ฟรังก์ และ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3440 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3486 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1209 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1183 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าแตะที่ระดับ 1.2713  ดอลลาร์ จากระดับ 1.2654 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6930 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6892 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button