MINT วอน AOT ทบทวนคุณสมบัติประมูล “พื้นที่พาณิชย์” มั่นใจประสบการณ์พร้อม

นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ รองประธานเจ้าหน้าที่การเงินส่วนกลางและวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า บริษัทยืนยันว่าได้ทำทุกขั้นตอนอย่างถูกต้อง และบริษัทยื่นข้อเสนอในนาม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ซื้อซองข้อเสนอการดำเนินงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไม่ใช่บริษัทย่อยอย่างที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT หรือ ทอท.ให้ข่าว  จึงไม่เห็นด้วยกับการที่ AOT ปฏิเสธไม่รับข้อเสนอของบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทฯมั่นใจว่าประสบการณ์ของบริษัทที่มีครบถ้วนตามที่ AOT กำหนดไว้ ได้แก่ ประสบการณ์ร้านค้าอาหาร และ Retail ที่มีพื้นที่มากกว่า 10,000 ตร.ม ต่อเนื่อง 5 ปี และยังคงดำเนินธุรกิจ เช่นเดียวกับประสบการณ์ศูนย์การค้าที่มีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 10,000 ตร.ม. ในระยะเวลา 5 ปี ต่อเนื่อง และยังคงดำเนินธุรกิจด้วยเช่นกัน ดังนั้น AOT ไม่ควรจะปฏิเสธข้อเสนอของบริษัททั้งที่ยังไม่เห็นแผนข้อเสนอของบริษัท

“ณ จุดนี้ ขอวิงวอนให้ทาง ทอท. พิจารณาทบทวนคุณสมบัติ เรารอดู 1-2 วันว่าตอบกลับมาอย่างไร และเราไม่เห็นด้วยกับทอท.ที่บอกว่าเราขาดคุณสมบัติ ทั้งข้อ 3 และข้อ 5 เราใช้ ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นคนซื้อซองและยื่นซอง…เรายืนยันว่าไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลมีประสบการณ์ ถึงแม้จะมีหรือไม่มีบริษัทลูก” นายชัยพัฒน์ กล่าว

อนึ่ง บริษัทฯ ได้ส่งหนังสือไปยังนายนิตินัย สมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เมื่อวันที่ 24 พ.ค.62 เพื่อขอให้ AOT ทบทวนการพิจารณาคุณสมบัติของ MINT ในการยื่นข้อเสนอการดำเนินงานให้สิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา และ AOT ให้ตกคุณสมบัติตามข้อ 3 และข้อ 5 ของประกาศทอท.และข้อ 3 ของเอกสารการยื่นข้อเสนอ รวมทั้งได้ยื่นหนังสือต่อ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน

ด้านนายชัยพัฒน์ กล่าวอีกว่า MINT มีประสบการณ์ห้างสรรพสินค้าที่ริเวอร์ไซด์ที่ฝั่งธน พัทยา และภูเก็ต ส่วนร้านอาหารบริษัทมีกว่า 1 พันสาขาได้แก่ร้านพิซซ่า เบอร์เกอร์คิง สเวนเซ่น เป็นต้น ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจมานานหลายสิบปี

รวมทั้งดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น ได้แก่แบรนด์ Esprit, Bossini,  Anello เป็นต้น ก็มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี อีกทั้งบริษัทยังได้ดำเนินธุรกิจโรงแรมทั่วโลก 60 ประเทศ ที่บริษัทรู้พฤติกรรมนักท่องเที่ยว ที่จะเป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้ดีทัดเทียมสากล

ทั้งนี้ บริษัทได้แสดงว่าในกลุ่มไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลแล้วยังมีบริษัทในกลุ่มที่ MINT ถือหุ้นใหญ่ 80-90% และมีอำนาจบริหาร การจัดการ การควบคุม การกำหนดแผนธุรกิจให้กับทั้ง 4 บริษัทย่อย เพื่อสนับสนุนประสบการณ์ของ MINT ได้แก่

1).บมจ.เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป และบริษัทย่อย ผู้ดำเนินธุรกิจประเภทร้านอาหาร

2).บมจ.ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น และบริษัทย่อย ผู้ดำเนินธุรกิจประเภทจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น และไลฟ์สไตล์

3).บริษัท รอยัล การ์เด้น พลาซ่า จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ ศูนย์การค้า รอยัล การ์เด้น พลาซ่า พัทยา และศุนย์การค้า เทอร์เทิล วิลเลจ พลาซ่า

4).บริษัท เจ้าพระยารีซอร์ท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจ ศูนย์การค้าริเวอร์ไซด์ พลาซ่า

ทั้งนี้ นายชัยพัฒน์ ยังไม่เปิดเผยว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไรหากทาง AOT ยังคงยืนยันที่จะไม่พิจารณาคุณสมบัติของบริษัท

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับหนังสือดังกล่าวแล้วและให้ฝ่ายบริหารธุรกิจนำไปพิจารณาอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ในเบื้องต้น เห็นว่าแม้ว่า MINT เป็นผู้ยื่นข้อเสนอ แต่นำประสบการณ์ของบริษัท เดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป  ซึ่งเป็นคนละนิติบุคคลนั้นถือว่ากระทำไม่ได้ ซึ่งระบุชัดเจนในทีโออาร์ เว้นแต่เดอะไมเนอร์ ฟู้ดกรุ๊ป เข้ามารูปแบบกิจการร่วมค้า (JV) ก็สามารถนำประสบการณ์รายอื่นมาใช้ได้ ซึ่งทาง MINT ก็ไม่ได้เสนอมาในรูปกิจการร่วมค้า ถึงจะระบุว่าเป็นบริษัทที่มีอำนาจควบคุม แต่ก็เป็นคนละนิติบุคคล และหากวันใดที่ขายหุ้นออกไปก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามหาก MINT ไม่ยอมก็คงต้องไปฟ้องศาล

“คนแข่งขันไม่ได้ซื้อซอง คนซื้อซองไม่มีประสบการณ์ เขาไม่ยอมยื่นชื่อ Joint Venture ไม่ใช่ว่าเราไม่เปิดโอกาส เป็นความเข้าใจผิดของเขา” นายนิตินัย กล่าว