แรงซื้อเก็งกำไรหนุนดาวโจนส์ปิดวานนี้บวกกว่า 90 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังการซื้อขายและจับตาดูการเจรจาปัญหาหนี้กรีซของบรรดาผู้นำยุโรป


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (7 ก.ค.) ที่ 17,776.91 จุด เพิ่มขึ้น 93.33 จุด หรือ +0.53%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,997.46 จุด เพิ่มขึ้น 5.52 จุด หรือ +0.11% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,081.34 จุด เพิ่มขึ้น 12.58 จุด หรือ +0.61% ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครโดยสถานประกอบการในสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 5.4 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 2000 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะแข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐ

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 2.9% สู่ระดับ 4.187 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่ายอดขาดดุลการค้าจะอยู่ที่ 4.25 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซได้สกัดแรงบวกของตลาดและส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด

สำหรับการประชุมรมว.คลังยูโรโซนนั้น ได้เสร็จสิ้นลงในช่วงเช้าวานนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยนายอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ รมว.คลังฟินแลนด์กล่าวว่า เขาหวังว่ากรีซจะยื่นขอความช่วยเหลือครั้งใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า และหลังจากนั้น กรีซจะส่งรายละเอียดของมาตรการที่รัฐบาลจะดำเนินการเพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือมากขึ้น

ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 2.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.ปีนี้ โดยหุ้นเอนเนอร์จี คอร์ป ปรับขึ้น 3.3% และหุ้นพีพีแอล คอร์ป ทะยานขึ้น 3% หุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภคปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นอัลเทรีย กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.5% หุ้นคอสท์โค โฮลเซล ดีดตัวขึ้น 3.4% หุ้นเฮอร์ชี ปรับขึ้น 2.7% และหุ้นเจนเนอรัล มิลส์ พุ่งขึ้น 2.3%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับตัวลงอย่างน้อย 1% และหุ้นโคเมริกา ร่วงลง 3.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แรน ร่วงลง 3.3% และหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง คอร์ป ดิ่งลง 6.1% หลังจากราคาทองแดงและทองคำปรับตัวลดลง

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันนี้ ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงิน ประจำวันที่ 16-17 มิ.ย. ส่วนวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และวันศุกร์จะเปิดเผยสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนพ.ค.

Back to top button