สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 พ.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 พ.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 3%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,169.88 จุด เพิ่มขึ้น 43.47 จุด หรือ +0.17% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,567.72 จุด เพิ่มขึ้น 20.41 จุด หรือ +0.27% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,788.86 จุด เพิ่มขึ้น 5.84 จุด หรือ +0.21%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) โดยตลาดฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนชะลอการขายหุ้น ขณะที่ประเมินว่า ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยืดเยื้อเพียงใด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นบริษัทสื่อ ซึ่งขานรับข่าวผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และ แนวโน้มการควบรวมกิจการ

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.42% ปิดที่ 372.07 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,248.91 จุด เพิ่มขึ้น 26.79 จุด หรือ +0.51% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,902.08 จุด เพิ่มขึ้น 64.27 จุด หรือ +0.54% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,218.16 จุด เพิ่มขึ้น 32.86 จุด หรือ +0.46%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) โดยตลาดฟื้นตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าใหม่ๆ เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน นอกจากนี้ การฟื้นตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ได้ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,218.16 จุด เพิ่มขึ้น 32.86 จุด หรือ +0.46%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า ข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 6.1 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,292.4  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.56% ปิดที่ 14.491 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 794.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 21.80 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1365.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงน้อยกว่าในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 2.22 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 56.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค.ปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ดิ่งลง 2.58 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 66.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค.ปีนี้

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) โดยดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนและปอนด์ แต่ก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับยูโรและฟรังก์สวิส หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการเมื่อคืนนี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.54 เยน จากระดับ 109.44 เยน แต่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0073 ฟรังก์ จากระดับ 1.0076 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3509 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ  1.3521 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1134 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1133 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2609 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2623 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6911 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6913 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Back to top button