คลังเผยยอดหนี้สาธารณะคงค้างสิ้น พ.ค.58 อยู่ที่ 42.58% ของ GDP

คลังเผยยอดหนี้สาธารณะคงค้างสิ้น พ.ค.58 อยู่ที่ 42.58% ของ GDP


นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในฐานะโฆษกสบน. เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 พฤษภาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,687,007.62 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 42.58 ของ GDP เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า หนี้สาธารณะลดลงสุทธิ 88,702.91 ล้านบาท

โดยหนี้ของรัฐบาลลดลง 73,893.27 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 24,000 ล้านบาท, การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 1,921.11 ล้านบาท ประกอบด้วย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทยกู้ต่อ จำนวน 1,804.62 ล้านบาท สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง รถไฟสายสีแดง และโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย, กรมทางหลวงเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อให้ใช้ในโครงการก่อสร้างทางสายหลักเป็น 4 ช่องจราจร (ระยะที่ 2) จำนวน 82.59 ล้านบาท, กรมทางหลวงชนบทเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อ ใช้ในโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณถนนนนทบุรี 1 จำนวน 33.90 ล้านบาท,

การนำเงินกู้ล่วงหน้าเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 60,000 ล้านบาท ไปชำระคืนหนี้พันธบัตรรัฐบาลภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะฯ ที่ครบกำหนด, การชำระหนี้ที่กู้มาเพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 20,450 ล้านบาท, การชำระคืนหนี้ภายใต้ พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ จำนวน 16,336.80 ล้านบาท, การชำระหนี้ที่กู้มาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน 516.67 ล้านบาท

ส่วนหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน มียอดหนี้คงค้างลดลง 9,289.46 ล้านบาท เนื่องจากรัฐวิสาหกิจต่างๆ มีการชำระคืนต้นเงินกู้มากกว่าการเบิกจ่ายเงินกู้ต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคม 2558 มีการกู้เงินเพื่อลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ การเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อซื้อหัวรถจักร 20 คัน ของการรถไฟแห่งประเทศไทย การกู้เงินเพื่อลงทุนใน 4 โครงการ ของการประปาส่วนภูมิภาค การกู้เงินเพื่อลงทุนในโครงการต่างๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

ขณะที่หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) มียอดหนี้คงค้างลดลง 4,621.76 ล้านบาท เนื่องจากรัฐวิสาหกิจต่างๆ มีการชำระคืนต้นเงินกู้มากกว่าการเบิกจ่ายเงินกู้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีรายการที่สำคัญ ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรชำระหนี้เงินต้นที่กู้มาเพื่อดำเนินโครงการรับจำนำข้าว โดยใช้เงินจากการระบายข้าว จำนวน 3,588.60 ล้านบาท และธนาคารอาคารสงเคราะห์ไถ่ถอนพันธบัตรที่ครบกำหนด 1,000 ล้านบาท

ส่วนหน่วยงานของรัฐ มียอดหนี้คงค้างลดลง 898.42 ล้านบาท เนื่องจากกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย สำนักงานธนานุเคราะห์ และสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อน มีการชำระคืนต้นเงินกู้มากกว่าการเบิกจ่ายเงินกู้

สำหรับหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2558 เท่ากับ 5,687,007.62 ล้านบาท แบ่งเป็น หนี้ในประเทศ 5,353,021.23 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 94.13 และหนี้ต่างประเทศ 333,986.39 ล้านบาท (ประมาณ 9,920.85 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือเท่ากับร้อยละ 5.87 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และหากเปรียบเทียบกับเงินสำรองระหว่างประเทศ จำนวน 158,518.37 ล้านเหรียญสหรัฐ (ข้อมูล ณ 29 พฤษภาคม 2558) หนี้ต่างประเทศจะคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 6.25 ของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพและความมั่นคงในด้านการเงินของประเทศ

โดยหนี้สาธารณะแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาวถึง 5,538,910.47 ล้านบาท หรือร้อยละ 97.40 และมีหนี้ระยะสั้นเพียง 148,097.15 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.60

Back to top button