KAMART พุ่งเฉียด 6% โบรกฯชี้ P/E ต่ำกลุ่ม-ลุ้นผลงานปีนี้โตรับยอดบริโภคฟื้นตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท คาร์มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ KAMART ล่าสุด ณ เวลา 11.45 น. อยู่ที่ระดับ 4.80 บาท ปรับตัวขึ้น 0.26 บาท หรือ 5.73% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 32.19 ล้านบาท

โดย บล.ทิสโก้ แนะนำ “ซื้อ” KAMART ราคาเป้าหมาย 4.80 บาท/หุ้น หลังจากบริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/62อยู่ที่ 77 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 7.7% จากปีก่อน และ 17.2% จากไตรมาสก่อนจากรายได้ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และอัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัวจากไตรมาสก่อนในขณะที่บริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเครื่องสำอางรายได้ลดลงค่อนข้างมาก ซึ่งมองว่าเป็นผลมาจากผลิตภัณฑ์ของ KAMART มีการพึ่งพาลูกค้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศจีนต่ำกว่าบริษัทอื่น

ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นของ KAMART เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 56% จาก 54.4% ในไตรมาส 1/61 และสามารถบริหารให้ทรงตัวที่ 56.1% ในไตรมาส 4/61 ซึ่งเป็นตามการปรับควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายของบริษัท นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายการขายและบริหารยังลดลงทั้งจากปีก่อน และจากไตรมาสก่อน โดยมีสัดส่วนต่อยอดขายอยู่ที่ 31.2% ลดลงเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ทำให้อัตรากำไรสุทธิปรับขึ้นมาอยู่ที่ 20.9%

ทั้งนี้ ประเมินผลประกอบการของ KAMART ในปี 2562-2563 เติบโต 10% จากปีก่อน ปัจจุบัน KAMART ซื้อขายอยู่ที่เพียง PER 12 เท่า ปี 62 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย -1SD ของบริษัท และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มค้าปลีก (28 เท่า) นอกจากนี้ KAMART ยังเป็นหุ้นที่มีปันผลต่อเนื่องปีละ 0.28 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 7.6%

อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงมาจาก 1) การใช้จ่ายผู้บริโภคที่ชะลอตัว 2) การแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งทั้งในประเทศและต่างประเทศและ 3) ข้อมูลของบริษัทที่จำกัด

ขณะเดียวกัน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ โดยแนะนำ KAMART เป็นหุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ DTAC, TASCO และ KAMART

1) KAMART (ราคาเป้าหมาย 5.5 บาท) :  คาดการบริโภคฟื้นตัวหนุน บวก PER ต่ำเพียง 10-11 เท่า

2) TASCO (Trad21) : หุ้นใน Theme Turnaround ที่ Consensus เริ่ม Upgarde

3) DTAC (ราคาเป้าหมาย 60 บาท ) :  การชนะข้อพิพาทกับ TOT เป็นจิตวิทยาบวก ผสานทิศทางกำไรเด่น