Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Tactical Move

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 2.53 จุด (0.15%) ปิดภาคเช้าที่ 1,669.76 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20,378.68 ล้านบาท

Most Positive Impact: CPALL (+1.1 จุด), PTT (+0.7 จุด), PTTEP (+0.39 จุด)

Most Negative Impact: KBANK (-0.82 จุด), SCB (-0.33 จุด), SCC (-0.23 จุด)

ตลาดหุ้นไทยถูกผลักดันด้วยกลุ่มพลังงาน(+1.29 จุด) พาณิชย์(+1.00 จุด) และกลุ่มสื่อสาร(+0.48 จุด) ส่วนกลุ่มที่กดดันดัชนีมากจากกลุ่มธนาคาร(-1.26 จุด) และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง(-0.14 จุด)

แนวโน้มตลาดบ่าย

มุมมองตลาดบ่ายนี้ คาดดัชนี sideway ในกรอบ 1,665-1,675 จุด โดยมองว่ากระแสเงินทุนจากต่างชาติจะชะลอลงเพื่อรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯซึ่งจะทราบผลในช่วงเช้าวันพฤหัสฯนี้ หากมีการส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปีคาดตลาดจะยังปรับตัวเพิ่มขึ้นจำกัด เนื่องจากมีประเด็นสำคัญที่ต้องรอดูในระยะต่อไปคือการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่การประชุม G20 ปลายเดือนนี้

วานนี้ยอดซื้อพันธบัตรของต่างชาติ 2,160 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อพันบัตรระยะยาว พร้อมกับการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวลงมาที่ 2.18% ใกล้เคียงกับ Bond yield 10 ปีของสหรัฐฯที่ 2.10% ด้วยส่วนต่างผลตอบแทนที่แคบลงทำให้ผลตอบแทนที่ชดเชยความเสี่ยงในตลาดพันธบัตรไม่คุ้มค่า ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้นโดยเฉพาะหุ้นปันผลสูง

กลยุทธ์การลงทุนทยอยสะสมหุ้นในกลุ่มต่อไปนี้

1) กลุ่มหุ้นที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL HMPRO CPF CPN AP

2) กลุ่มหุ้นที่อิงกับโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค AMATA STEC CK BGRIM DTAC BTS

3) กลุ่มปันผลสูง ได้ประโยชน์จากเทรนดอกเบี้ยขาลง และมีเงินไหลเข้าจากกองทุนตราสารหนี้หลังโดนเก็บภาษี 15% ได้แก่ JASIF TFFIF ABPIF JAS QH ADVANC INTUCH SCB

4) กลุ่มที่งบ 1Q19 ดี กำไรมีแนวโน้มถูกปรับขึ้น ได้แก่ SAPPE PR9, SPALI TTCL PRM

5) กลุ่ม Laggard play ROBINS BJC CENTEL TRUE ORI SCC BBL

ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตาม วันนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซน เดือนพ.ค. โดยตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ 1.2% YoY วันพุธติดตามตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ตลาดมองลดลง 4.8 แสนบาร์เรล วันพฤหัสฯติดตามการกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

หุ้นแนะนำ JAS TFFIF SCB