BEC-MCOT นำทีมหุ้น“ทีวีดิจิทัล”บวกคึก! จ่อรับเงินเยียวยา หลัง 3 ค่ายมือถือลุยคลื่น 700
“ทีวีดิจิทัล”บวกคึก! BEC-MCOT นำทีม จ่อรับเงินเยียวยา หลัง 3 ค่ายมือถือลุยคลื่น 700
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะเปิดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ยื่นขอรับการจัดสรรคลื่น 700 MHz ในวันนี้(19 มิ.ย.62) ตั้งแต่เวลา 8.30-12.00 น. จากนั้น 14.00-16.00 น. จะเป็นการเลือกชุดคลื่นความถี่และสำนักงาน กสทช.จะแถลงผลการจัดสรรคลื่นความถี่ดังกล่าว
ล่าสุดทั้ง 3 ค่ายมือถือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC,บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC และบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ได้ยื่นเอกสารเพื่อเข้าร่วมขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 700 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz)เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้จากประเด็นดังกล่าวทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นกลุ่มทีวีดิจิทัล โดยพบว่าวันนี้ราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นนำโดย BEC,MCOT,WORK,MONO,GRAMMY ปรับตัวขึ้นในวันนี้(19 มิ.ย.62) เนื่องจากหุ้นดังกล่าวจะได้รับผลดีจากการที่ 3 ค่ายมือถือยื่นขอรับการจัดสรรคลื่น 700 MHz ซึ่งจะทำให้ กสทช.สามารถนำเงินที่ได้รับจากการจัดสรรคลื่นดังกล่าวมาใช้ในการเยียวยาให้กับประกอบกิจการทีวีดิจิทัลที่ยังค้างชำระค่างวด
โดย ณ เวลา 11.59 น. ราคาหุ้นบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC อยู่ที่ 9.10 บาท บวก 0.35 บาท หรือ 4% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 175.60 ล้านบาท ส่วนบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK อยู่ที่ 24 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 2.56% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 83.69 ล้านบาท
ด้านบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO อยู่ที่ 1.88 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 0.53% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.42 ล้านบาท และ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT อยู่ที่ 10.40 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.96% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 0.61 ล้านบาท และบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY อยู่ที่ 9.50 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 0.35% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 0.12 ล้านบาท
อนึ่งก่อนหน้านี้เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมในส่วนของทีวีดิจิทัลนั้น ในข้อ 10 ของประกาศฉบับนี้ ระบุว่า
ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการรายใดประสงค์จะคืนใบอนุญาตที่ได้รับตามประกาศ ให้แจ้งเป็นหนังสือไปยังสำนักงาน กสทช. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และให้สำนักงาน กสทช. พิจารณากำหนดค่าชดเชยให้แก่ผู้รับใบอนุญาตดังกล่าว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ผู้รับใบอนุญาตได้รับในระหว่างที่ได้มีการประกอบกิจการ และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ที่ได้มีการชำระแล้ว
นอกจากนี้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล 22 ช่อง ไม่ต้องนำเงินค่าประมูล 2 งวดสุดท้าย คือ งวดที่ 5 และ 6 มาชำระให้กับ กสทช. ส่วนรายใดที่นำเงินมาชำระไปแล้ว ก็มาขอคืนได้ และรายใดที่ยังชำระงวดที่ 4 ไม่ครบตามจำนวน ก็ให้นำเงินมาชำระค่าประมูลให้ครบตามถ้วน และตามวันเวลาครบรอบการชำระค่าประมูล ซึ่งจะครบชำระในเดือน พ.ค.2562 นี้
สำหรับวงเงินค่าประมูลทีวีดิจิทัลงวด 5 และ 6 รวมเป็นเงิน 13,622 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิทัล (MUX) นั้น กสทช.จะช่วยสนับสนุนออกเงินค่าใช้จ่ายให้ โดยจะนำเงินไปชำระให้ผู้ประกอบการโครงข่าย คือ สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 กรมประชาสัมพันธ์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) รวมเป็นเงินปีละ 1,960 ล้านบาท จนสิ้นสุดอายุใบอนุญาต
โดยเมื่อวันที่ 10 พ.ค.62 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า มีช่องทีวีดิจิทัล ที่เข้ามายื่นเรื่อง ขอคืนใบอนุนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลที่งหมด 7 ช่อง ประกอบไปด้วย 1.ไบรท์ทีวี 20 2.วอยซ์ทีวี 21 3.MCOT Family 14 4.สปริงนิวส์ 19 5.สปริง 26 (Now26 เดิม) 6.ช่อง3 แฟมิลี่ 13 และ 7.ช่อง 3 SD 28 ทำให้จากช่องทีวีธุรกิจ 22 ช่อง เหลือประกอบการทั้งหมด 15 ช่อง
ส่วน บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ผู้ประกอบกิจการทีวีดิจิทัลแจ้งคืนช่องในระบบดิจิทัลทั้งหมด 7 ราย ได้แก่ ผู้ช่อง VoiceTV21 ช่องสปริงนิวส์ 19 ช่องสปริง 26 (Now26) ช่อง MCOT Family (14) ช่อง ไบรท์ทีวี20 ช่อง 13 แฟมิลี่ และช่อง 28 3SD ส่งผลบวกต่อผู้ที่ยังอยู่ในอุตสาหกรรมแต่จำกัด เนื่องจากช่องที่คืนมีเรตติ้งที่ค่อนข้างน้อย และเม็ดเงินโฆษณาไม่ได้มากอยู่แล้ว ผลกระทบต่อผู้ที่คืนช่อง อย่าง BEC และ MCOT จะได้รับผลประโยชน์ 2 ต่อ คือ เงินชดเชย และค่าดำเนินงานที่จะหายไป
ทั้งนี้ มองว่าผลประกอบการของ BEC จะกลับมามีความน่าสนใจอีกครั้งหลังจากคืนช่องที่ขาดทุนไป และกลับมาเน้นช่อง 3HD เพียงช่องเดียว มองว่ากำไรของ BEC จะบวกกลับมาปีนึงราว 800 ล้านบาท หนุนให้กำไรกลับไปสู่ระดับ 1,000 ล้านบาทครั้ง (EPS ที่ 0.50 บาท) หากอิง PER ที่ 20 เท่า จะได้ราคาเหมาะสมที่ 10 บาทยังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” BEC (งบไตรมาส 1/62 ที่ผ่านมาอ่อนแอ แต่คาดเป็นจุดต่ำสุด)
ด้าน บล.เคที ซีมิโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ โดย แนะนำ “Overweight” กลุ่ม Media & Publishing หลัง 7 ช่องทีวีดิจิทัล คืนใบอนุญาต ประกอบด้วย 1) ช่อง 3SD 2) ช่อง 3 Family 3) ช่อง MCOT Family 4) ช่อง Spring 26 5) ช่อง Spring News 6) ช่อง Bright TV และ 7) ช่อง Voice TV
ทั้งนี้ คาดว่า กสทช. จะต้องใช้เงินคืนราว 4 พันล้านบาท ให้แก่ผู้ประกอบการทั้ง 7 ราย โดย BEC จะได้รับผลประโยชน์สูงสุด เนื่องจากเป็นผู้ประกอบการที่คืนใบอนุญาตทั้ง 2 ช่อง โดยคาดบริษัทจะได้รับเงินราว 1.1 พันล้านบาท และ NEWS ก็คืนใบอนุญาตทั้ง 2 ช่องเช่นกัน แต่จะได้รับเงินคืนน้อยกว่า BEC เนื่องจากบริษัทไม่ได้ถือหุ้นทั้งหมด 100% ในช่อง Spring 26