จับตาหุ้นพลังงานวิ่งรับน้ำมันดิบ“เบรนท์-WTI”ปิดพุ่ง 4% หลังอิหร่านยิงโดรนกองทัพสหรัฐ
จับตาหุ้นพลังงานวิ่งรับน้ำมันดิบ“เบรนท์-WTI”ปิดพุ่ง 4% หลังอิหร่านยิงโดรนกองทัพสหรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% เมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า อิหร่านได้ยิงโดรนสอดแนมของกองทัพสหรัฐ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกว่าทั้งสองประเทศอาจเกิดการปะทะกันทางการทหาร ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ในวันที่ 1 ก.ค.นี้
โดย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 2.89 ดอลลาร์ หรือ 5.4% ปิดที่ 56.65 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนก.ค.ได้ครบกำหนดส่งมอบแล้วเมื่อคืนนี้
ขณะเดียวกันสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.63 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 64.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าร้อยละ 4จากเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน ภายหลังที่กองทัพอากาศอิหร่านยิงสกัดโดรนของกองทัพสหรัฐฯ ตกเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 62 ที่ผ่านมา เนื่องจากโดรนดังกล่าวล่วงล้ำน่านฟ้าของอิหร่านบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านที่ยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคตะวันออกกลาง นับตั้งแต่เหตุเรือบรรทุกน้ำมันของสหรัฐฯ ถูกโจมตีในน่านน้ำตะวันออกกลาง ซึ่งสหรัฐฯ เชื่อว่าเป็นการโจมตีของอิหร่าน ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตะวันออกกลางถือเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบหลักของโลกในสัดส่วนที่มากกว่าร้อยละ 20
ด้าน ผู้ผลิตน้ำมันดิบในกลุ่มโอเปกตกลงที่จะรักษาระดับของปริมาณน้ำมันดิบในเดือน ก.ค. 62 ให้อยู่ในระดับที่ได้มีการตกลงกัน และจะมีการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 1ก.ค. 62 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อที่จะหารือเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบในครึ่งปีหลัง