ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง “คอมเซเว่น” แต่งตัวเข้าเทรด SET ใน Q3/58

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ ASP และ บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ว่าขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้พิจารณานับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์(ไฟลิ่ง) ของ COM7 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในไตรมาส 3/58

โดย COM7 เป็นบริษัทผู้จำหน่ายสินค้าไอทีประเภท คอมพิวเตอร์แล็บท็อป คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริม รวมถึงการให้บริการซ่อมแซมสินค้าไอทีชั้นนำของประเทศ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ 

ปัจจุบัน COM7 มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แบ่งเป็นจำนวนหุ้นสามัญทั้งสิ้น 1,200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (PAR) หุ้นละ 0.25 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 225 ล้านบาท แบ่งเป็นจำนวนหุ้นสามัญ 900 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (PAR) หุ้นละ 0.25 บาท โดยมีกลุ่มนายสุระ คณิตทวีกุล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ถือหุ้นสัดส่วนรวมทั้งสิ้น 59.6% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว                

 “COM7 เป็นหุ้นน้องใหม่ที่มีศักยภาพสูง และคาดว่าจะได้รับการต้อนรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากเป็นธุรกิจเข้าใจง่ายและเข้าถึงคนในทุกระดับ อีกทั้ง COM7 ยังมีช่องทางการขายมากกว่า 300 สาขาและครอบคลุมพื้นที่ทั้งในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดกว่า 55 จังหวัดทั่วประเทศ ได้แก่ ร้าน iStudio, iBeat, uStore By Comseven, ร้าน BaNANA IT, BaNANA Mobile, Samsung Shop, Mango Mobile และ ศูนย์บริการ iCare  ประกอบกับทีมผู้บริหารมีความรู้และเชี่ยวชาญในธุรกิจเป็นอย่างดี เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาธุรกิจของ COM7 มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง”นายก้องเกียรติ กล่าว

ด้านนายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COM7 เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะนำหุ้นเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำหรับเงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำไปใช้ขยายธุรกิจ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และชำระคืนเงินกู้ โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองตามกฎหมาย

 “ปี 58 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของ COM7 ในการก้าวสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคาดว่าบริษัทจะมีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากปี 57 ที่มียอดขายประมาณ 14,000 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากสินค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น รวมทั้งไอโฟน 6 ที่ออกมากระตุ้นตลาดได้ดี รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มเติมของบริษัท” นายสุระ กล่าว         

สำหรับผลการดำเนินงานในปี 57 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 14,102.46 ล้านบาท  และกำไรสุทธิ 206.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 19.86  และสำหรับในงวด 3 เดือนแรกของปี 58 บริษัทมีรายได้รวม  3,959.11 ล้านบาท  และกำไรสุทธิ 70.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.67 จากงวดเดียวกันของปีก่อน  อันเนื่องมาจากการขายสินค้าประเภทโทรศัพท์เคลื่อนที่  สินค้าประเภท House Brand และอุปกรณ์เสริม ได้เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา