A5 สลัดคราบ ADAM ครอบธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ย้ำความมั่นใจนลท.เปิดเทรดวันแรกไม่ทิ้งหุ้น!

A5 สลัดคราบ ADAM ครอบธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ ย้ำความมั่นใจนลท.เปิดเทรดวันแรกไม่ทิ้งหุ้น!


จากกรณีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่ถูกหยุดพักการซื้อขายโดยขึ้น (Suspension – SP) ต่อเนื่องมานานเกินกว่า 3 เดือนแล้ว และยังไม่เคยได้รับอนุญาตให้มีการเปิดซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทนับตั้งแต่ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP โดยตลาดหลักทรัพย์จะเปิดให้ซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนข้างต้นระหว่างวันที่  1-31 กรกฎาคม 2562

ประกอบด้วย 16 บริษัท ดังนี้ A5, BLISS, BUI, CHUO, EARTH, GSTEL, IFEC, KC, KTECH, NBC, NMG, POLAR, PRO, STHAI, TSF และ WR

โดยล่าสุดวันนี้ (26 มิ.ย. 62) นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 (ชื่อเดิมคือ บริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ADAM) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศผ่านช่องทางข่าวหุ้นทีวีออนไลน์ และสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) FM 102 MHz. ถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า บริษัทมีความคาดหวังว่าจะตลาดหลักทรัพย์จะให้หุ้น A5 กลับมาทำการซื้อขายแบบถาวรในปี 2563 ซึ่งบริษัทจะต้องผ่านเกณฑ์ 2 เกณฑ์คือต้องมีกำไรสุทธิติดต่อกัน 4 ไตรมาส และเกณฑ์การควบคุมภายใน (Internal Control) ซึ่งบริษัทคาดว่าจะผ่านทั้ง 2 เกณฑ์นี้ได้ภายในปีนี้

ขณะที่ปัจจุบันกลุ่มของตนถือหุ้นรวมกันอยู่ 67% และมีในส่วนของ นายเกรียงไกร ศิระวณิชการ ที่ปรึกษาทางการเงินร่วมถือหุ้นอยู่ด้วยราว 30% ซึ่งถือว่าขณะนี้ตนและนายเกรียงไกรถือหุ้นรวมกันอยู่จำนวน 97% และมั่นใจว่าในการเปิดเทรดชั่วคราววันแรกจะไม่มีการเทขายหุ้นออกมาอย่างแน่นอน เนื่องจากมีความตั้งใจเข้ามาทำธุรกิจและระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

“เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผู้ถือหุ้นเดิม (กลุ่ม ADAM) เลย เราเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อยากให้นักลงทุนมั่นใจว่าโครงการของเรายังมียอดขายที่ดี และมียอดแบ็กล็อคที่ดี พร้อมกันนี้เรายังวางแผนโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ท็อป 10 ในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต” นายศุภโชค กล่าว

อย่างไรก็ตาม อยากจะอธิบายให้นักลงทุนเข้าใจว่า ขณะนี้ตนเป็นผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ที่มีความตั้งใจเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ และมองเห็นว่าการเข้าซื้อกิจการเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้รวดเร็ว จึงตัดสินใจซื้อกิจการของบริษัท อาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ADAMAS

“เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผู้ถือหุ้นเดิมเลย เราเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อยากให้นักลงทุนมั่นใจว่าโครงการของเรายังมียอดขายที่ดี และมียอดแบ็กล็อคที่ดี พร้อมกันนี้เรายังวางแผนโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่ท็อป 10 ในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต” นายศุภโชค กล่าว

สำหรับ A5 ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบันมีโครงการในมือจำนวน 6 โครงการ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบ อาทิ โครงการ Vana Residence วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9 – ศรีนครินทร์ และโครงการ Vana Residence 2 ที่เตรียมตัวเปิดตัวในปี 2563

ขณะที่โครงการที่สร้างเสร็จเรียบร้อยพร้อมรับรู้รายได้คือ โครงการ VIO แคราย ซึ่งเป็นโครงการคอนโดประเภทโลว์ไรส์ที่ขณะนี้ขายได้แล้ว 70% ส่วนที่เหลือ 30% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท แต่มีการจองเข้ามาและรอโอนอยู่ประมาณ 10%

อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้ายอดโอนปี 2562 ที่ระดับ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งจะมาจากโครงการ วนา เรสซิเดนซ์ เป็นหลัก รวยถึงรายได้จากโครงการในต่างจังหวัดของบริษัทลูกภายใต้ชื่อโครงการรชยาเรียลเอสเตท

ขณะที่ภาพรวมในปี 2562 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถมีผลการดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะสามารถรับรู้รายได้ได้ในช่วงปลายปี เพราะโครงการส่วนใหญ่จะเริ่มสร้างเสร็จในช่วงนั้น

“A5 เพิ่งเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์เพียงแค่ 5-6 เดือน และในไตรมาส 1/62 ก็สามารถสร้างผลกำไรให้เห็นแล้ว และเชื่อว่าในไตรมาส 2 ถึงไตรมาส 4 ก็จะมียอดรับรู้รายได้ที่เป็นบวกต่อไป” นายศุภโชค กล่าว

Back to top button