บอร์ดSUPERไฟเขียวทุ่ม130ลบ. ซื้อ”ซุปเปอร์วอเตอร์”จาก”จอมทรัพย์”เพิ่มรายได้ธุรกิจน้ำประปา
บอร์ด SUPER ไฟเขียวทุ่มเงิน 130 ล้านบาท ซื้อหุ้น "ซุปเปอร์วอเตอร์" สัดส่วน 100% จาก "จอมทรัพย์" ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน หวังเพิ่มรายได้ธุรกิจน้ำประปา
บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทได้มีมติให้ SUPER เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ซุปเปอร์ วอเตอร์ จำกัด (SUPERW) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำประปา จาก นายจอมทรัพย์ โลจายะ ซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน ซึ่งเป็นกรรมการและเป็นผู้บริหารของ SUPER จำนวนรวม 9,999,998 หุ้น คิดเป็นมูลค่าถือหุ้นรวมร้อยละ 100.00 ของทุนจดทะเบียน 10,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ในราคาหุ้นละ 13 บาทต่อหุ้น คิดเป็นราคารวม 129,999,974 บาท
โดยภายหลังการเข้าทำรายการยังส่งผลให้บริษัทกิจการร่วมค้าไทยพานิชนาวาและแหล่งน้ำไทย จำกัด (JVTPN) มีสภาพการเป็นบริษัทย่อยของ SUPER ซึ่ง SUPER จะถือหุ้นทางอ้อมใน JVTPN สัดส่วนร้อยละ 90 อีกด้วย
ทั้งนี้ SUPERW ดำเนินธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบและน้ำประปาให้กับนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ชลบุรี มีสัญญาซื้อขายน้ำดิบกับบจ.อมตะวอเตอร์ อายุสัญญา 25 ปี สิ้นสุด 31 ธ.ค.86 และจำหน่ายน้ำประปาให้กับการประปาส่วนภูมิภาคสาขานภูเก็ตโดยมีสัญญาซื้อขายน้ำประปา 3 สัญญา อายุสัญญา 5 ปี สิ้นสุดปี 67 และสัญญาซื้อขายน้ำประปาเพื่อรองรับการให้บริการ ต.กระทู้ (ฝั่งตะวันออก) การประปาส่วนภูมิภาคสาขาภูเก็ต บริษัทเป็นผู้ชนะการเสนอราคาปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำสัญญา
ส่วน JVTPN เป็นผู้จำหน่ายน้ำประปาในพื้นที่ตำบลชัยมงคล อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ที่มีสัญญาดำเนินกิจการน้ำเพื่อการอุปโภคตำบลชัยมงคล กับอบต.ชัยงมงคล อายุ 30 ปีสิ้นสุด 5 ก.ค.80 และจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร มีสัญญาซื่อขายน้ำกัสำนักงานนิคม 2 ปี สิ้นสุด 30 มิ.ย.63
สำหรับการลงทุนดังกล่าวจะเป็นการสร้างโอกาสในการขยายไปยังธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำ ซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปีตามการเติบโตของชุมชนและภาคอุตสาหกรรม และเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ให้มากขึ้นโดยคู่สัญญาของบริษัทในปัจจุบันคือ การประปาส่วนภูมิภาค และบริษัทเอกชนที่มีความน่าเชื่อถือและมีฐานะการเงินมั่นคง ดังนั้น รายได้ที่จะได้จึงมีความแน่นอนและต่อเนื่องในระยะยาว
รวมทั้งเพิ่มความหลากหลายในการลงทุน และเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน และเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัท และผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว
ส่วนแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อสินทรัพย์จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนและเงินสดจากผลประกอบการของบริษัทที่จะได้รับเป็นปกติในระหว่างการดำเนินงานของบริษัท