เลิกฟัด! “สมศักดิ์-สุริยะ” ขนาบ “อุตตม” แถลงยัน “รับทุกเงื่อนไข-เลิกร้องถอดเลขาพปชร.”

เลิกฟัด! “สมศักดิ์-สุริยะ” ขนาบ “อุตตม” แถลงยัน “รับทุกเงื่อนไข-เลิกร้องถอดเลขาพปชร.”


วันนี้(2ก.ค.62) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงข่าวร่วมกัน หลังจากวานนี้ (1 ก.ค.62) กลุ่มสามมิตร แสดงพลังพร้อมแถลงจุดยืนทางการเมือง โดยเฉพาะการเรียกร้องหลังจากมีกระแสข่าวว่า นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ อาจจะไม่ได้รับการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี

โดย นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้ขอแจ้งข้อมูลและถือเป็นการพูดความในใจส่วนหนึ่ง หลังจากมีข่าวมาสักระยะหนึ่งว่ามีการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ ในทำนองว่ามีความเห็นที่แตกแยกระหว่างกลุ่มการเมือง ขอเรียนว่า การหารือในสิ่งที่เกิดขึ้นถือได้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย หากจำกันได้ในอดีตพรรคการเมืองก็สามารถมีคนที่มีความเห็นที่แตกต่างกันได้ มีการแสดงออกในความเห็นต่างๆได้ ถือเป็นเรื่องปกติ ของเราอาจแสดงเสียงดังสักนิดหนึ่ง ไม่ว่ากัน

แต่ขอเรียนทุกคนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมาของกลุ่มสามมิตร ขอเรียนว่ากลุ่มสามมิตรได้แจ้งว่า ได้มีการหารือเป็นการภายในและได้มีโอกาสแสดงความเห็น สะท้อนความคิดในฐานะ ส.ส.และท่านได้แจ้งว่า เรื่องทั้งหลายถือได้จบลงตรงนั้นแล้ว หมายความว่า ส.ส.สามมิตร หรือทุกคนของพรรค ซึ่งได้รับเลือกจากประชาชนเข้ามาทำงานที่มีอีกยาวไกล เมื่อตั้งรัฐบาลได้ก็ต้องทำงานในรัฐสภา ทางกลุ่มสามมิตรได้แจ้งว่า ทางกลุ่มพร้อมเดินหน้าทำงานต่อไป การแสดงเจตนารมณ์มีเท่านี้และถือว่ายุติแล้ว ส่วนขั้นตอนการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่จะดูแลต่อไป

ดังนั้น เรื่องทั้งหลายเดินมาตามกรอบประชาธิปไตย อาจจะแรงไปบ้าง แต่เราพรรคใหญ่ มีความหลากหลาย แต่ประเด็นคือเสร็จแล้วก็ยุติได้ ดังนั้นเรื่องทั้งหลายเป็นไปตามนี้ กลุ่มสามมิตรอยู่ที่นี่ ส่วนการตั้งคณะรัฐมนตรีเป็นไปตามการพิจารณาของนายกรัฐมนตรี โดยจะไม่มีเงื่อนไขอย่างอื่น

โดยเมื่อถามว่า กลุ่มสามมิตรยินดีที่จะรับการจัดสรรคณะรัฐมนตรีตามที่นายกรัฐมนตรีดำเนินการใช่หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเรายังไม่มีข้อมูลทางการเลยว่าใครอยู่ตรงไหน อันนี้ไม่มีเลย ที่ได้ยินมาอาจจะเป็นการคาดการณ์และคาดเดากันไป ต้องถือว่า เมื่อได้มีข้อมูลจริง เมื่อนั้นจะเห็นว่าใครอยู่ตรงไหน แต่ที่รับทราบคือ กลุ่มสามมิตรไม่ได้ตั้งเงื่อนไขอะไรแล้ว ให้ท่านนายกรับมนตรีดำเนินการ

อีกทั้งเมื่อถามว่า กลุ่มสามมิตรจะยอมรับตามที่นายกรัฐมนตรีจัดสรรใช่หรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า เมื่อวานกลุ่มสามมิตรได้นัด ส.ส.มาคุยกัน และได้แสดงความยินดีตามโผคณะรัฐมนตรีที่มีข่าวว่าตัวเองอาจจะเป็น รมว.พลังงาน แต่เมื่อมีข่าวว่าจะไม่ได้เป็นตามนั้น คนก็สงสัยว่าทำไมเป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะข่าวที่ว่า นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐ อาจจะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีด้วย

ซึ่งนายอนุชาได้ทำงานด้วยความทุ่มเทมาโดยตลอด เป็นเครื่องจักรสำคัญในการหา ส.ส.ให้มาอยู่กับกลุ่มสามมิตร ส่วนตัวไม่ได้ลงพื้นที่ภาคสนาม แต่นายอนุชาเป็นคนดำเนินการทั้งหมด รวมถึงการกำหนดยุทธศาสตร์การหาเสียง นายอนุชายอมเสียสละไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อ และลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต ที่สำคัญก็ไม่ได้เอาเวลาไปหาเสียงในพื้นที่ตัวเอง แต่เสียสละเวลาไปช่วยคนอื่นหาเสียง นายอนุชาจึงได้แสดงความน้อยใจมาก แต่ในที่สุดเราได้พูดคุยจนมีความเข้าใจแล้วว่า ต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้า ไม่อยากให้เป็นประเด็นว่ากลุ่มสามมิตรก่อปัญหา เพราะหลังจากแถลงข่าวไปแล้วก็กลับมาคุยกันอีกต่อ จนทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า

การที่จะให้ใครอยู่ในตำแหน่งไหน กลุ่มสามมิตรยอมรับที่จะให้ท่านนายกรัฐมนตรีมีอำนาจการตัดสินใจตามความเหมาะสม ส่วนแถลงการณ์ข้อสุดท้ายของเรา ที่ระบุว่า หากนายกรัฐมนตรไม่พิจารณาตามกลุ่มที่เรียกร้องไปแล้ว จะมีการกำหนดท่าทีใหม่ ขอยืนยันว่า ข้อเรียกร้องนี้ไม่มีแล้ว เราจะเคารพการตัดสินใจของท่านนายกรัฐมนตรี

“ทั้งหมดผมคิดว่าอยู่ที่ท่านนายกฯตัดสินใจ เรามอบเรื่องที่จะไปยื่นข้อเรียกร้องต่างๆ ได้แสดงให้ท่านนายกฯเห็นแล้ว ส่วนจะตัดสินใจอย่างไร ก็เชื่อว่าท่านจะตัดสินใจอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติ เราเคารพและจะไม่มีการออกมางอแง” นายสุริยะ กล่าว

อีกทั้งเมื่อถามว่า กลุ่มสามมิตรยังเรียกร้องให้นายสนธิรัตน์ลาออกอีกหรือไม่ นายอุตตม บอกว่า เมื่อวานนี้ได้มีการพูดคุยกับนายสนธิรัตน์แล้ว ซึ่งประเด็นนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดความแตกแยก เพราะท่านเข้าใจดีว่า ส.ส.บางคนก็ลงแรงเยอะ สื่อสารกันอาจจะผิดพลาดไม่ชัดเจน เลขาธิการพรรคก็คงมีโอกาสได้พูดคุยกัน ประเด็นนี้ก็ถือว่าจบแล้วเช่นเดียวกัน

ด้าน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องของนายสนธิรัตน์ คงจะหยุดไม่ได้ดำเนินการเรื่องถอดถอนอะไรทั้งสิ้น หลังจากที่เราทำความเข้าใจในเหตุผลต่างๆ มันเกี่ยวโยงกับการทำงานของนายอนุชาที่ทำงานหนักด้วย แต่การสื่อสารข้อมูลผลงานของนายอนุชาไปถึงผู้มีอำนาจมีความไม่ชัดเจนในการสื่อสารทำให้ข้อมูลต่างๆตรงนี้ไม่ตรงหรือไม่ครบ ก็เป็นความคลาดเคลื่อนในสิ่งต่างๆเหล่านั้น

ดังนั้นการดำเนินการของกลุ่มสามมิตรเมื่อวานนี้เป็นการสื่อสารให้มีความชัดเจนไปยังผู้มีอำนาจสูงสุดต่างๆ ก็สุดแท้แต่ผู้มีอำนาจจะตัดสินใจอย่างไร เราไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น ในส่วนของนายสนธิรัตน์ได้แสดงจุดยืนออกมาแล้ว และเราได้ทำความเข้าใจแล้วว่า หากเราไม่หยุดในประเด็นของท่านเลขาธิการพรรคก็จะเป็นการเข้าใจผิดกันไปใหญ่ จึงได้มีการทำความเข้าใจกันแล้ว ทุกคนยอมรับว่า ไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะวันนี้เป็นวันที่สำคัญ ใกล้เวลาที่นายกรัฐมนตรีจะได้ตัดสินใจนำเสนอผู้คนที่จะมาทำงานในตำแหน่งทางการเมืองเพราะประชาชนรออยู่พอสมควรแล้ว นายอนุชาก็มีความเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้แล้ว

“เรื่องของเลขาธิการพรรคไม่ถือว่าเป็นประเด็นหลักที่เรามีการพูดคุยกันเมื่อวานนี้ มันมีคนหยิบยกขึ้นมา เราคิดว่าเราไม่ติดใจ และหยุดประเด็นท่านเลขาฯไปเถอะ เพราะจะทำให้หลายเรื่องพัวพันกัน เพราะเป็นเรื่องเล็กของท่านเลขาฯ” นายสมศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ถึงเวลาที่ ส.ส.ของพรรคจะได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เพื่อทำความเข้าใจกันหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ผมเรียนว่าท่านให้ความสำคัญ ในฐานะที่พรรคเป็นผู้นำเสนอชื่อท่านเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป บัดนี้ท่านได้รับความไว้วางใจนั้นจากรัฐสภา ส่วนการทำงานต่อไปจะเข้าสู่บริบทที่ ส.ส.ทำงานในสภา คณะรัฐมนตรีทำงานบริหาร เชื่อว่าท่านนายกรัฐมนตรีจะดูแลในเรื่องสิ่งเหล่านี้ในสวนของพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอน อยากให้สังคมมั่นใจได้ว่าในการที่เราจะสื่อสารกับนายกรัฐมนตรีหรือท่านสื่อสารกับเราจะเป็นไปด้วยความราบรื่น และอยากให้ทุกคนมองว่ามีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง มีเสียงออกไปสู่สังคมบ้าง ก็ต้องขออภัยที่อาจทำให้เกิดความสับสน แต่อยากให้เห็นว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐเราถกกันได้ ถกแล้วจบ จบแล้วเดินหน้า นี่คือการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย และเชื่อมั่นว่า ส.ส.มาอยู่ตรงนี้ต้องการทำงานให้ประชาชน

ดังนั้นสองท่านนี้ ทั้งนายสมศักดิ์ และนายสุริยะ ได้พูดแล้วว่าไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร คุยกันแล้วก็จบ เดินเข้าสู่บริบทต่อไป จัดตั้งรัฐบาล ทำงานในสภาอย่างเข้มแข็ง และถือเป็นสปิริตของเขา เพราะส่วนตัวประสบกับตัวเองตั้งแต่ตั้งพรรคการเมือง ท่านทำงานกันอย่างหนัก แต่ทุกคนก็เข้าใจว่าต้องเดินหน้าต่อไป ส่วนวันข้างหน้าจะมีโอกาสอะไรหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ สุดท้ายความรักพวกเรามี แต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างได้ ถือเป็นธรรมชาติของพรรคการเมือง

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรค พปชร.มีปัญหามาก อาจจะมีการปฏิวัติ นายอุตตมบอกว่า ไม่เกี่ยวเลย ไม่ทราบว่าใครพูด อย่าเอาเรื่องนี้มาพูด ประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ดี

นายสุริยะ กล่าวย้ำว่า วันนี้ที่กลุ่มสามมิตรกับหัวหน้าพรรคมาแถลงข่าว ประเด็นหลักคือกลุ่มสามมิตรจะไม่สร้างปัญหาให้กับนายกรัฐมนตรี และหลังจากที่เราแถลงข่าวเมื่อวานนี้ ท่านนายกรัฐมนตรีคงได้รับทราบแล้ว วันนี้ตกลงกันว่าจะทำให้นายกรัฐมนตรีสบายใจ เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้า ส่วนท่านจะพิจารณาให้กลุ่มสามมิตรได้ตำแหน่งอะไรทำงานตรงไหน ก็มอบอำนาจเด็ดขาดให้กับนายกรัฐมนตรีเป็นคนตัดสินใจ ที่คือจุดประสงค์ที่เรามาแถลงข่าววันนี้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าวตลอด 20 นาที ของนายสุริยะ และนายสมศักดิ์เป็นที่น่าสังเกตว่าสีหน้าไม่ดี คล้ายๆ กับการสะกดกั้นอารมณ์ และตาแดงๆ ในขณะที่นายอุตตม ก็สีหน้าไม่ดี และพยายามตัดบทในการถามตอบของผู้สื่อข่าวเช่นกัน

Back to top button