Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Tactical Move

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 6.02 จุด (0.35%) ปิดภาคเช้าที่ 1,738.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30,742.82 ล้านบาท

Most Positive Impact: AOT (+1.05 จุด), CPF (+0.63 จุด), SCB (+0.5 จุด)

Most Negative Impact: GULF (-0.42 จุด), PTTEP (-0.39 จุด), TOP (-0.3 จุด)

ผลการประชุม OPEC plus (รวมผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม OPEC นำโดยรัสเซีย) เมื่อวานนี้สิ้นสุดลงโดยมีมติขยายเวลาลดกำลังการผลิตที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ออกไปอีก 9 เดือน ซึ่งผลเป็นไปตามตลาดคาด

วานนี้ต่างชาติเข้าซื้อพันบัตรไทยกว่า 7,790 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่(80%) เป็นการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่อัตราผลตอบแทนพันบัตรระยะยาวของสหรัฐฯดิ่งลง กดดันให้ผลตอบแทนพันธบัตรไทยวานนี้ลดลงเหลือ 2.075% ล่าสุดวันนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของไทยดิ่งลงต่อเหลือ2.01% เป็นบวกต่อให้ตลาดหุ้นไทยในเชิงของ yield gap

แนวโน้มตลาดบ่าย

มุมมองตลาดบ่ายนี้ คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,730-1,745 จุด รอปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม ได้แก่ การจัดตั้งคณะรัฐมนตรี และการประชุมของธนาคารกลางต่างๆ ทั้งนี้ตลาดยังมีความน่าสนใจในเชิงของ Earning yield gap หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับตัวลง

กลยุทธ์การลงทุนทยอยสะสมหุ้นในกลุ่มต่อไปนี้

1) กลุ่มหุ้นที่อิงการบริโภคในประเทศ CPALL HMPRO GLOBAL CPF CPN AP

2) กลุ่มหุ้นที่อิงกับโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค AMATA FPT STEC CK BGRIM DTAC BTS

3) กลุ่มปันผลสูง ได้ประโยชน์จากเทรนดอกเบี้ยขาลง และมีเงินไหลเข้าจากกองทุนตราสารหนี้หลังโดนเก็บภาษี 15% ได้แก่ JASIF TFFIF ABPIF QH ADVANC INTUCH SCB TISCO BGC

4) กลุ่ม Laggard play ROBINS BJC CENTEL TRUE ORI

5) กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว PTT RJH SYNEX AOT GUNKUL PRM MINT

6) Pair trade strategy แนะนำ Long BTS/Short BEM (ตลาด priced in การต่อสัมปทานทางด่วนของ BEM แล้วขณะที่ BTS จะได้ต่อสัมปทานสีเขียว), Long STEC/Short CK (STEC งบดุลแข็งแกร่งพร้อมประมูลงานใหม่)

ประเด็นเศรษฐกิจที่น่าติดตาม วันนี้ติดตามดุลการค้าสหรัฐฯประจำเดือน พ.ค. คาดขาดดุล 5 หมื่นล้านเหรียญ วันศุกร์ติดตามตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯ และการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ

หุ้นแนะนำ AMATA PRM BGC