“6 หุ้นโรงกลั่น” เด้งรับค่าการกลั่นพุ่ง! โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” TOP ชูเป้า 88 บ.อัพไซด์ 23%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 12.11 น. ราคาหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP อยู่ที่ระดับ 71.75 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.06% สูงสุดที่ระดับ 73 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 71.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2 พันล้านบาท

ด้านราคาหุ้น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC อยู่ที่ระดับ 62.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.40% สูงสุดที่ระดับ 62.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 62 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 747.14 พันล้านบาท

ส่วนราคาหุ้น บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC อยู่ที่ระดับ 10.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 5% สูงสุดที่ระดับ 10.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 714.65 พันล้านบาท

ขณะที่ ราคาหุ้น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO อยู่ที่ระดับ 11.10 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 3.74% สูงสุดที่ระดับ 11.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 10.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 568.70 พันล้านบาท

เช่นเดียวกับราคาหุ้น บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC อยู่ที่ระดับ 5 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 1.63% สูงสุดที่ระดับ 5.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.94 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 571.52 พันล้านบาท

พร้อมกันนี้ ราคาหุ้น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP อยู่ที่ระดับ 31 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.64% สูงสุดที่ระดับ 31.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 106.45 พันล้านบาท

โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากล่าสุดค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น

ด้านนายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มโรงกลั่นเช้านี้ปรับตัวขึ้นยกแผง คาดว่าว่าจะเป็นการปรับขึ้นตอบรับค่าการกลั่นที่ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี มองค่าการกลั่นเป็นแค่การฟื้นตัวขึ้นชั่วคราวหลังจากก่อนหน้านี้เคลื่อนไหวแถว 3 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นก็ปรับตัวลงลึกเกินไปในช่วงก่อนหน้านี้ วันนี้ก็ฟื้นตัวขึ้นมา ล่าสุด (11 ก.ค.) ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดที่ 9.36 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น TOP ราคาเป้าหมาย 88 บาท ปัจจุบันหุ้นเทรด PBv 1.1 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.5 เท่า) โดยประเมินว่า ไตรมาส 3/62 กำไรจะพื้นตัวแรงจากไตรมาส 2/62 เนื่องจากไม่มีขาดทุนสต๊อกน้ำมัน (inventory loss)

ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามคือเฮอริเคนในฝั่งแอทแลนติก ซึ่งจะเข้าสู่ฤดูเฮอริเคนในเดือน ส.ค.-ต.ค. คาดว่าปีนี้จะมีเฮอริเคนเข้ามาประมาณ 4-8 ลูก ซึ่งน่าจะมีความรุนแรง และอาจส่งผลให้โรงกลั่นมีการหยุดเดินเครื่อง ซึ่งจะส่งผลให้ค่าการกลั่นดีดตัวแรง

ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น PTTGC ราคาเป้าหมาย 74 บาท อ้างอิง PBV 1.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 7 ปี เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมีที่ถูกกดดันทั้งจากอุปสงค์ชะลอตัวและการเพิ่มขึ้นของอุปทานใหม่

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหุ้นมี Downside จำกัด จาก valuation ที่ไม่แพงด้วย PBV 0.9 เท่า และผลตอบแทนจากปันผล FY2562 4.7% นอกจากนั้นเชื่อว่าการเป็นผู้ผลิตต้นทุนต่ำ จากการใช้ก๊าซฯ เป็นวัตถุดิบจะช่วย PTTGC ให้ทนทานต่อแรงกดดันของภาวะอุปทานส่วนเกินได้ จึงแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนระยะยาว