วิตกอุปทานล้นตลาดฉุดน้ำมันดิบปิดลบ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 54 เซนต์ ปิดวานนี้ (13 ก.ค.) ที่ 52.2 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 88 เซนต์ ปิดที่ 57.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากรายงานประจำเดือนของกลุ่มโอเปกระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของโอเปกในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 283,000 บาร์เรล สู่ระดับ 31.38 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะเดียวกันโอเปกได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปกในปี 2558 โดยระบุว่า ปริมาณการผลิตในปีดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 18,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 860,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าการผลิตในปี 2559 จะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 57.69 ล้านบาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ โอเปกคาดว่า ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2558 จะเพิ่มขึ้น 1.28 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเพิ่มขึ้น 1.34 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2559 นอกเหนือจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาดแล้ว สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ