“อุตตม” มั่นใจป่วนกรุงไม่กระทบเชื่อมั่น ชี้ตลาดหุ้นลงแรงเป็นไปตามภาวะศก.โลก

วันนี้(2 ส.ค. 62) นายอุตตม สาวนายน รมว.การคลัง เปิดเผยถึงกรณีเหตุการณ์ระเบิดหลายจุดทั่วกรุงเทพฯ ว่า เชื่อมั่นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างแน่นอน เพราะมั่นใจว่าฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการในการรองรับ ดูแลและจัดการเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้กำลังให้ปลัดกระทรวงการคลัง และผู้บริหารไปดูแลความปลอดภัยของทรัพย์สินและบุคลากรของกระทรวงและหน่วยงาน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะหน้า

“เชื่อว่านักลงทุนที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จะทราบดีกว่าเกิดอะไรขึ้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพออกมารองรับอยู่แล้ว เมื่อนักลงทุนทราบรายละเอียดในส่วนนี้ก็จะคลายความกังวลลงได้” นายอุตตม กล่าว

ส่วนกรณีดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมานี้ มองว่า ประเด็นเรื่องการคลังไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษที่เข้าไปกดดันการลงทุน และเชื่อว่าการลดลงของดัชนีตลาดหุ้นนั้นไม่ใช่ภาวะที่รุนแรง เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างมาก มีกรณีพิพาทระหว่างหลายประเทศ ที่เป็นปัจจัยกดดันการลงทุน แต่ในส่วนของประเทศไทย พื้นฐานเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง และนักลงทุนส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นมากขึ้น จึงไม่ได้หนักใจในส่วนนี้ โดยเร็ว ๆ นี้จะมีการหารือร่วมกับผู้บริหารตลาดทุน เพื่อรับทราบทิศทางและแนวโน้มการลงทุนโดยรวม

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เชื่อว่าเหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นในขณะนี้เป็นเหตุการณ์ระยะสั้น ซึ่งในระยะสั้นไม่น่าจะส่งผลกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ โดยขณะนี้ยังเร็วไปที่จะประเมินความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความท้าทาย ทั้งจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ปัญหาสงครามการค้า ซึ่งรับมือได้ยากอยู่แล้ว จึงไม่อยากให้มีปัจจัยลบที่เข้ามากระทบเศรษฐกิจไทยเพิ่มเติม เพื่อให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวการณ์ฟื้นตัวต่อไป โดยกระทรวงการคลังจะมีการปรับประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้อีกครั้ง

“เราได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว ก็น่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยในเรื่องความเชื่อมั่นของนักลงทุน อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา บริษัท มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส จำกัด และบริษัท ฟิทซ์ เรตติ้ง จำกัด ได้มีการปรับมุมมองของประเทศไทยเพิ่มขึ้น ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นได้ดีขึ้น” นายลวรณ กล่าว