แรงขายทำกำไรกลุ่มแบงก์-พลังงานกด SET พลิกปิดลบ 2 จุด แนะจับตาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
แรงขายทำกำไรกลุ่มแบงก์-พลังงานกด SET พลิกปิดลบ 2 จุด แนะจับตาสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน โดยดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,669.44 จุด ลบ 2.04 จุด หรือ 0.12% มูลค่าการซื้อขาย 8.45 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,669.44 จุด ลบ 2.04 จุด หรือ 0.12% มูลค่าการซื้อขาย 8.45 หมื่นล้านบาท
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
ด้าน นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว โดยดัชนีฯสวิงตัวหลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สร้าง Surprise ให้กับตลาดฯในช่วงสั้น ทำให้ดัชนีฯเด้งตัวขึ้นไปก่อนที่จะอ่อนตัวลงมา จากแรงขายทำกำไรของหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน ที่นำตลาดฯขาลง ซึ่งกลุ่มแบงก์เผชิญแรงขายเพราะคนมองถึงผลระทบของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะทำให้กำไรอาจจะน้อยกว่าที่ประมาณการไว้ และยังมองถึงเศรษฐกิจแย่กว่าที่คิดไว้ด้วย ซึ่งมาร์เก็ตแคปของกลุ่มแบงก์ก็ถือว่าใหญ่พอที่จะส่งผลต่อตลาดฯด้วย
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยเศรษฐกิจโลกยังอึมครึม และเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ และยังต้องติดตามดูสถานการณ์ต่อไป
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (8 ส.ค.) นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด ซึ่งฝั่งการเงินคงจะปรับตัวขึ้นได้ยากต้องรอดูการ review ก่อน แต่ตลาดฯก็ยังมีลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ และยังมีปัจจัยบวกหลายอย่างที่ต้องรอดู เพียงแต่ภาพใหญ่ยังเป็นลบ
พร้อมให้แนวรับ 1,650 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,589.63 ล้านบาท ปิดที่ 167.50 บาท ลดลง 6.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,119.75 ล้านบาท ปิดที่ 171.50 บาท ลดลง 5.50 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 2,975.50 ล้านบาท ปิดที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,794.07 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,788.00 ล้านบาท ปิดที่ 45.00 บาท ลดลง 0.50 บาท