“โนมูระ” เชียร์ซื้อ AMANAH หลังโชว์กำไร “ออลไทม์ไฮ” ชี้ผลงานโตต่อเนื่องเคาะเป้า 2.80 บ.
“โนมูระ” เชียร์ซื้อ AMANAH หลังโชว์กำไร “ออลไทม์ไฮ” ชี้ผลงานโตต่อเนื่องเคาะเป้า 2.80 บ.
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMANAH หลังบริษัทรายงานกำไรปกติในช่วงไตรมาส 2/62 ที่ระดับ 61.2 ล้านบาท เติบโต 61.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อน ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ 12% (ตั้ง Employee Benefit 1.5 ล้านบาท) หนุนจากยอดสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น 347 ล้านบาท เร่งตัว 28.5% จากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 29% จากไตรมาสก่อน (ไตรมาส 1/62 ยอดเพิ่มขึ้น 269 ล้านบาท)
โดยเป็นทิศทางเดียวกับ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโตแตะ 125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เทียบจากปีก่อน และทรงตัว -0.6% จากไตรมาสก่อน จากบริษัทปรับวิธีประเมินผลงานของพนักงาน สร้างแรงกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่การตลาดวิ่งหายอดสินเชื่อปล่อยมากขึ้นและยังคงเดินหน้าสู่เป้า 2 พันล้านบาท ภายในสิ้นปี (คาด 1.6 พันล้านบาท)
ส่วนของยอดตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญรวมเป็น Positive Surprise มาก ลงมาเหลือเพียง 18.1 ล้านบาท (คาด 26.3 ล้านบาท) ลดลง 46% จากปีก่อน และลดลง 24% จากไตรมาสก่อน จากการติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยึดรถคืนอย่างรวดเร็ว ส่งผลบวกให้ NPL ratio ลดลงเหลือ 6.43% จากไตรมาส 1/62 ที่ระดับ 6.6% พอร์ตมีความแข็งแรงขึ้นอย่างชัดเจน
ขณะที่กำไรในช่วงครึ่งแรกปี 2562 เท่ากับ 50% ของประมาณการทั้งปี 2562 แต่ฝ่ายวิจัยประเมินว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 แนวโน้มกำไรจะเติบโตในอัตราเร่งกว่าช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จาก 1) ประเมิน AMANAH จะสร้างยอดสินเชื่อใหม่ขึ้นสู่ระดับ +400 ถึง +500 ล้านบาท ต่อไตรมาส 2) จำกัดยอดตั้งสำรองหนี้เสียต่อไตรมาสต่ำกว่า 20 ล้านบาท แต่ในประมาณการคาดไตรมาสละ 35 ล้านบาท จึงมี Upside ของกำไรจากส่วนนี้
3) ควบคุม NPL Ratio ให้อยู่กรอบล่าง 6.0%-6.5% (2561: 6.9%) สอดคล้องกับการยึดรถที่รวดเร็วและปล่อยเฉพาะสินเชื่อที่มีคุณภาพ 4) เปิดสาขาเพิ่มอีก +3 สาขา และ Renovate สาขาเดิมให้กลับมาพร้อมทำงานอีก 2 สาขา ทั้ง 4 ประเด็น จะผลักดันให้กำไรทั้งปี 62 จะสูงกว่าที่ประมาณการไว้ โดยปัจจุบันประเมินกำไรสุทธิ 2562 เดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ที่ 218.5 ล้านบาท เติบโต 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อย่างไรก็ตาม คงคำแนะนำซื้อมูลค่าพื้นฐานปี 62 ที่ 2.80 บาท (ซึ่งหาก Roll-over ไปปี 2563 มูลค่าเหมาะสมจะอยู่ที่ 3.48 บาท) โดยในปัจจุบัน AMANAH อยู่ในจุดที่กำไรจะเติบโตจากปีก่อนต่อเนื่องไปอีก 4 ไตรมาส แต่ยังซื้อขายอิง PER ปี 62 เพียง 10.5 เท่า ในขณะที่ SAWAD/MTC ซื้อขายบน PER เฉลี่ย 21 เท่าในขณะที่กำไรรายไตรมาสทำ All-time high ติดต่อกัน จึงประเมินราคาหุ้นควรซื้อขายบน PER ระดับ 13-15 เท่า และยังมี Discount กลุ่มอยู่ 29%-38%