เปิดโผ 30 หุ้น SET โชว์กำไรไตรมาส 2/62 โตทะลักเกิน 100%
เปิดโผ 30 หุ้น SET โชว์กำไรไตรมาส 2/62 โตทะลักเกิน 100%
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า จากการรวบรวมผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 2/2562 (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ส.ค. 2562) จำนวน 597 บริษัท จากจำนวนบริษัททั้งหมด 617 บริษัท (นับเฉพาะตลาด SET ไม่รวมตลาด mai) หรือคิดเป็นสัดส่วน 96% มีกำไรสุทธิรวม 2.17 แสนล้านบาท ลดลง 23% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 และลดลง 18% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2562 ขณะที่กำไรสุทธิ 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 2562 อยู่ที่ 4.85 แสนล้านบาท ลดลง 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดังนั้นทางทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์ SET มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมามานำเสนอโดยครั้งนี้คัดเลือกหุ้นที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเกิน 100%
สำหรับหุ้นที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว 30 ตัวคือ VPO,TU,UT,Q-CON,DTAC,TASCO,GLAND,PAP,PTTEP, GUNKUL, WHA, BSBM, BEM,PF, JMART, KDH,BGRIM, WHAUP,CBG, BROCK,PTG, TAE,NOBLE,TFG,BTS,AMATA, CPI,IFS,UVAN,CCET โดยจะนำเสนอข้อมูลประกอบเพียง 5 อันดับแรกของตารางดังนี้
อันดับ 1 บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ VPO ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันปาล์มดิบ รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากของเสียหรือสิ่งเหลือใช้จากกระบวนการสกัดน้ำมันปาล์มดิบ
โดยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นเป็น 34.21 ล้านบาท โต 5,976.13% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.56 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นจากปริมาณขายของน้ำมันปาล์มดิบ และเมล็ดในปาล์ม ขณะที่ราคาขายของน้ำมันปาล์มดิบ และเมล็ดปาล์มลดลง ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น
อันดับ 2 บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ผู้ผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง และขยายธุรกิจให้ครบวงจรด้วยธุรกิจอาหารสำเร็จรูปและอาหารว่าง โดยเน้นอาหารทะเล ธุรกิจบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ ธุรกิจการตลาดภายในประเทศ ธุรกิจอาหารสัตว์ และธุรกิจพัฒนาสายพันธุ์กุ้งเพื่อจำหน่าย
โดยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 111.48 ล้านบาท โต 1,056.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.64 ล้านบาท โดยมาจากการฟื้นตัวมาจากราคาวัตถุดิบที่ปรับลดลง
บล.ดีบีเอสฯ ระบุว่า TU อัตรากำไรขั้นต้นยังเป็นตัวเร่งกำไรในครึ่งหลังปี 62 หลังจากในงวดครึ่งปีแรก (1H62) ทำได้ดี เพราะราคาต้นทุนวัตถุดิบทูน่าที่ปรับลงดี และไม่มีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายที่สูงแล้ว หลังจากกำไรสุทธิงวดไตรมาส 2/62 ได้ถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายพิเศษให้ปรับลงมาก
ธุรกิจ Red Lobster ปรับตัวดีขึ้น ส่วนแบ่งขาดทุนทยอยลดลงมายังงบการเงิน TU และเร่งการดำเนินงานให้ดีขึ้น ทั้งการเพิ่มเมนู และขยายตลาดออกไป เช่น ประเทศจีน คงคำแนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐาน 20.80 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ปี 62 ที่ 17 เท่า
อันดับ 3 บริษัท ยูเนี่ยนอุตสาหกรรมสิ่งทอ จำกัด (มหาชน) หรือ UT ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ได้แก่ ผ้าฝ้าย 100 % ผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ และ/หรือใยสังเคราะห์อื่นที่มีคุณลักษณะเฉพาะตามที่ลูกค้าต้องการ รวมถึงให้บริการ ปั่นด้าย ทอผ้าด้วย
โดยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 126.95 ล้านบาท โต 922.66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.42 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ไตรมาส 2/62 เพิ่มขึ้นเป็น 333.59 ล้านบาท จากปีก่อน 195.33 ล้านบาท
อันดับ 4 บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q-CON ผลิตและจำหน่ายคอนกรีตมวลเบาเพื่อจำหน่ายในประเทศ และส่งออก รวมถึงผลิตภัณฑ์ทั้งประเภทไม่เสริมเหล็ก ได้แก่ บล็อค (Block) ขนาดต่างๆ และประเภทเสริมเหล็ก ได้แก่ คานทับหลังสำเร็จรูป (Lintel), แผ่นผนัง (Wall Panel), แผ่นพื้น (Floor Panel) และแผ่นบันได (Stair) โดยเป็นการ spin off มาจาก LH
โดยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 26.65 ล้านบาท โต 897.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.67 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ไตรมาส 2/62 เพิ่มขึ้นเป็น 333.59 ล้านบาท จากปีก่อน 195.33 ล้านบาท
นายกิตติ สุนทรมโนกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ควอลิตี้คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์ (Q-CON) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 62 มีโอกาสเติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกรายได้เติบโตแล้ว 12% และแนวโน้มครึ่งปีหลังรายได้น่าจะทำได้สูงกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามปกติที่ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบาจะสูงขึ้น โดยเฉพาะตลาดในประเทศที่โครงการก่อสร้างต่าง ๆ จะเริ่มเดินหน้ามากขึ้น
นอกจากนั้น ในส่วนของตลาดต่างประเทศเริ่มมีลูกค้าสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้น หลังจากเข้าไปทำตลาดมากขึ้น ทำให้ลูกค้ารู้จักเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอินเดีย ซึ่งบริษัทได้ส่งผลิตภัณฑ์ Q Panel ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Solution เข้าไปจำหน่าย ช่วยเข้ามาทดแทนตลาดออสเตรเลีย หลังจากปีนี้โรงงานผลิตอิฐมวลเบาของออสเตรเลียสามารถเดินเครื่องผลิตได้ ทำให้ลดการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทลง ทำให้สัดส่วนรายได้จากการส่งออกของบริษัทในปีนี้ลดลงมาเป็น 14-15% จากปีก่อนอยู่ที่ 17%
อันดับ 5 บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC ดำเนินธุรกิจให้บริการโทรคมนาคมและบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดยผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2/62 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1,694.60 ล้านบาท โต 845.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 179.29 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิเติบโตเนื่องจากบริษัทมีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายของต้นทุนการให้บริการลดลง 47.4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการสิ้นสุดของค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ภายใต้สัมปทานในเดือนกันยายน 2561 ซึ่งถูกชดเชยบางส่วนจากค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz และ 900 MHz และการขยายเครือข่าย
อีกทั้งต้นทุนค่าธรรมเนียมในไตรมาสนี้เท่ากับ 646 ล้านบาท ลดลง 58.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ภายหลังสัญญาสัมปทานและ มาตรการเยียวยาสิ้นสุดลง ส่งผลให้สัดส่วนต้นทุนค่าธรรมเนียมต่อรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่ายลดลงมาอยู่ที่ 4.3% จาก 9.8% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
พร้อมกันนี้ บริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2562 ในอัตราหุ้นละ 1.26 บาท กำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาล (Record Date) ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2562 และกำหนดวันจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในวันที่ 9 สิงหาคม 2562
ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน