ดอลล์แข็งค่าหลัง “เยลเลน” ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยปีนี้
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (15 ก.ค.) เนื่องจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0950 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1009 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5636 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5629 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.70 เยน จาก 123.33 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9516 ฟรังก์ จาก 0.9452 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7374 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7449 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากการที่ประธานเฟดแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อคืนนี้ ซึ่งระบุว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงขยายตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ และอัตราว่างงานจะค่อยๆลดลง “หากเศรษฐกิจปรับตัวดีตามที่เราคาด ภาวะเศรษฐกิจก็มีแนวโน้มจะทำให้มีความเหมาะสมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปีนี้” นางเยลเลนกล่าว
ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนแรงลง เนื่องจากกลุ่มผู้ที่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามท้องถนนของกรุงเอเธนส์เมื่อคืนนี้ ขณะที่รัฐสภากรีซเตรียมลงมติร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่ของนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ด้านเจ้าหนี้ของกรีซระบุว่ามาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจเป็นสิ่งจำเป็นในการเจรจาเกี่ยวกับการเริ่มเบิกจ่ายเงินช่วยเหลืองวด 3 สำหรับกรีซ