TASCO โบรกฯชูหุ้น “Outperform” ลุ้นฟันกำไรปี 62 ทะลุ 2.75 พันลบ. โตกระฉูดเกือบ 4 เท่าตัว!

บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต สวิส ระบุในบทวิเคราะห์ โดยจัดให้หุ้น บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO เป็นหุ้น Outperform จากการที่บริษัทมีรูปแบบธุรกิจที่มีลักษณะเฉพาะตัว พร้อมด้วยโรงกลั่นยางมะตอยของตัวเองที่ตั้งอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ส่งผลให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นในตลาดค้าปลีกในภูมิภาค โดยยอดขายยางมะตอย 60% ของ TASCO นั้นเป็นยางมะตอยที่ส่งมาจากโรงงานของตัวเอง ดังนั้น เครดิต สวิส จึงจัดให้ TASCO เป็นหุ้นที่ Outperform และให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 25.0 บาท / หุ้น

นอกจากนั้นแล้ว ยังมองว่า TASCO มีโอกาสที่จะได้เห็นกำไรอย่างต่อเนื่องเริ่มตั้งแต่ปี 2562 นี้ เนื่องด้วยตลาดยางมะตอยนั้นปรับแคบลงจากการที่โครงสร้างอุปทานของยางมะตอยลดลง ซึ่งสืบเนื่องมาจากบริษัทที่ทำธุรกิจโรงกลั่นต่างหันไปใช้เงินลงทุนหลักพันล้านดอลลาร์ในการอัพเกรดโรงกลั่นของตัวเองเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบากว่าแทน

อาทิ S-Oil และ SKI ที่เกาหลีใต้ Exxon – Jorong ที่สิงคโปร์ หรือแม้ TOP ของประเทศไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ความต้องการยางมะตอยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจากโปรเจ็กต์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในเอเชียที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และที่สำคัญยังมีความเป็นไปได้ที่ต้นทุนน้ำมันดิบดูไบจะปรับตัวลดลงไปอีกหลังจากการบังคับใช้ IMO 2563

สำหรับจุดเด่นของ TASCO นั้นอยู่ที่การสร้างเครือข่ายเพื่อขายผลิตภัณฑ์โดยเจาะจงไปที่ผู้รับเหมาก่อสร้างถนน ซึ่งยอดขายเพียง 25% ของ TASCO เท่านั้นที่มาจากประเทศไทย ถึงกระนั้นยังมีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) อยู่ถึง 40% ในส่วนของรายได้ และยอดขายจากต่างประเทศนั้นมาจากการตั้งบริษัทย่อย และบริษัทร่วมทุนทั้งใน จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งทำให้ TASCO สามารถขายผลิตภัณฑ์ด้วยมาร์จิ้นที่สูงขึ้นได้ โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่ TASCO มีโรงงานตั้งอยู่ในสามมณฑล

อย่างไรก็ตาม แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด TASCO ยังมีความเสียงที่สูงกว่าจากการที่ต้องใช้น้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาเพื่อการกลั่นในสัดส่วน 80% ของน้ำมันดิบที่ใช้ โดยที่เวเนซูเอล่านั้นยังถูกทางการสหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรอยู่ และยังจะมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากรอบการผลิตที่ไม่คงที่หลังจากเริ่มใช้ IMO 2563

ทั้งนี้ เครดิต สวิส คาด TASCO จะมีกำไรสุทธิในปี 2562 ที่ระดับ 2,756 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 388% จากกำไรสุทธิ 564 ล้านบาท ในปี 2561 ในขณะที่ปี 2563 คาดมีกำไรสุทธิ 3,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5% จากคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2562 ที่ 2,756 ล้านบาท และด้วยความเป็นผู้นำทางด้านยางมะตอยในภูมิภาคด้วย ROE ที่สูงถึง 21.5% เครดิต สวิส คาด EPS CAGR ในปี 2561-2564 จะอยู่ที่ 81% โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 25.0 บาท / หุ้น มี P/E 12 เท่า ในปี 2563 และมี SD +1 ที่อยู่เหนือค่าเฉลี่ยในปี 2557-2560 EV/EBITDA คาดอยู่ที่ 8.6 เท่า ในปี 2563