สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ส.ค. 2562

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากหุ้นดังกล่าวร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งตลาดพันธบัตรสหรัฐที่ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,036.10 จุด พุ่งขึ้น 258.20 จุด หรือ +1.00% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,887.94 จุด เพิ่มขึ้น 18.78 จุด หรือ +0.65% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,856.88 จุด เพิ่มขึ้น 29.94 จุด หรือ +0.38%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ตลาดหุ้นอังกฤษได้แรงหนุนจากการดิ่งลงของค่าเงินปอนด์ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.20% ปิดที่ 372.86 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,368.80 จุด ลดลง 18.29 จุด หรือ -0.34%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,701.02 จุด ลดลง 29.00 จุด หรือ -0.25% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,114.71 จุด เพิ่มขึ้น 25.13 จุด หรือ +0.35%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออกที่ปรับตัวขึ้นหลังค่าเงินปอนด์ดิ่งลงอย่างหนักจากความวิตกเกี่ยวกับกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)  แบบไร้ข้อตกลง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,114.71 จุด เพิ่มขึ้น 25.13 จุด หรือ +0.35%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลงมากที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 55.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 60.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 1,549.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 15.8 เซนต์ หรือ 0.86% ปิดที่ 18.456  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. พุ่งขึ้น 40.70 ดอลลาร์ หรือ 4.69% ปิดที่ 908.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 18.50 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 1462.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ว่า อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่ข้อตกลง (No Deal Brexit) ในวันที่ 31 ต.ค.นี้

เงินปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2217 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2295 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1078 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1092 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6736 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6756 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.04 เยน จากระดับ 105.78 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9816 ฟรังก์ จากระดับ 0.9809 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3307 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3287 ดอลลาร์แคนาดา