EPG มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตต่อ รับอานิสงส์ราคาวัตถุดิบลด-ยอดขายพุ่ง
EPG มั่นใจผลงานครึ่งปีหลังโตต่อ รับอานิสงส์ราคาวัตถุดิบลด-ยอดขายพุ่ง
นายเฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลประกอบการในงวดครึ่งปีหลัง (1 ต.ค.62 ถึง 31 มี.ค.63) จะยังเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยบวกจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง ซึ่ง EPG ถือเป็นผู้ใช้เม็ดพลาสติกอันดับต้นๆ ของประเทศ ทำให้ได้รับประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าวค่อนข้างมาก
พร้อมกันนั้น ในช่วงที่วัตถุดิบอยู่ในขาลง บริษัทได้มีการบริหารจัดการ โดยใช้กลยุทธ์ลดการสต็อกจากเดิม 3 เดือน ลงมาเป็น 2 เดือน โดยจะเน้นซื้อวัตถุดิบในระดับราคาที่เห็นว่าเหมาะสมเพื่อควบคุมต้นทุน โดยประเมินทิศทางราคาวัตถุดิบในไตรมาส 3 งวดปี 62/63 (เดือน ต.ค.-ธ.ค.62) และไตรมาส 4 งวดปี 62/63 (เดือน ม.ค.63-มี.ค.63) ที่คาดว่าจะยังลดลงต่อเนื่อง แต่น่าจะอยู่ในทิศทางการปรับลดที่แคบลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับบริษัทได้มีการแสวงหาวัตถุดิบในประเทศต่างๆ ที่มีราคาถูก เช่น อเมริกา, จีน รวมถึง แหล่งผลิตในตะวันออกกลาง, ยุโรป และรัสเซีย
นอกจากนี้ ในงวดครึ่งปีหลังนี้ก็คาดว่าปริมาณการขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อค่าใช้จ่าย SG&A ลดลง และอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้น โดยธุรกิจฉนวนกันความร้อนและเย็นภายใต้แบรนด์ Aeroflex จะเริ่มเดินเครื่องผลิตจากโรงงานใหม่ กำลังการผลิตราว 5,000 ตัน/ปีในช่วงปลายปีนี้ หรือเดือน ก.ย.-ต.ค.62 ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในกระบวนการผลิตได้ถึง 10% และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ 50%
รวมถึงยังช่วยเพิ่มโอกาสการขยายตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่มากขึ้นในตลาดสหรัฐฯ, ธุรกิจชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ภายใต้แบรนด์ Aeorklas ก็จะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่มากขึ้น
ด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติกภายใต้แบรนด์ EPP ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 งวดปี 62/63 (เดือน ต.ค.-ธ.ค.62) และไตรมาส 4 งวดปี 62/63 (เดือน ม.ค.-มี.ค.63) จะเป็นช่วงของไฮซีซั่น ซึ่งจะมีการใช้กำลังการผลิตมากขึ้น โดยบริษัทก็มีการบริหารจัดการกระบวนการผลิตให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้จะทำการตลาดในประเทศฟิลิปปินส์และ CLMV อย่างต่อเนื่อง