“ทรัมป์” จ่อใช้มาตรการ SPR หนุนซาอุฯ หลัง”ฮูตี” ถล่มบ่อ“Aramco” กระทบน้ำมัน5.7ล้านบาร์เรล

สืบเนื่องจากเหตุการณ์โจมตีโรงผลิตน้ำมันในประเทศซาอุดิอารเบียเมื่อคืนวานนี้ (14 ก.ย.2562) โดยกบฎฮูตีอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งทำให้โรงงานผลิตน้ำมันของ บริษัท Aramco สองโรงได้รับความเสียหาย โดยหนึ่งในโรงผลิตน้ำมันนั้นอยู่ที่ Abqaiq ซึ่งเป็นโรงผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ด้าน มุฮัมมัด บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน และมกุฎราชกุมารของซาอุดิอารเบียกล่าวว่าการโจมตีนี้ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันของประเทศหายไปกว่าครึ่ง หรือ 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากการผลิตทั้งหมดของประเทศที่ 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากหลายสำนักเห็นว่าอาจต้องใช้เวลาประมาณ 1-3 อาทิตย์ อย่างเร็วที่สุด ซาอุ จึงจะกลับมาผลิตน้ำมันดิบได้ตามเดิม โดย Andrew Lipow ประธาน ของ Lipow Oil Associates กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบอาจพุ่งทะยานสูงถึง 5-10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลได้ในวันเปิดทำการค้าขายที่จะถึงนี้

อย่างไรก็ตาม รายงานจากสื่อต่างประเทศระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ติดต่อไปยัง มกุฎราชกุมาร มุฮัมมัด บิน ซัลมาน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมจะช่วยหนุนการผลิตที่หายไป

โดยทางสหรัฐฯมีการสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงทางยุทธศาสตร์ หรือ Strategic Petroleum Reserve (SPR) ซึ่งมีน้ำมันสำรองเก็บอยู่ถึง 630 ล้านบาร์เรล ซึ่งถ้าหากทางสหรัฐฯใช้มาตรการฉุกเฉิน SPR อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบไม่สูงขึ้นดังที่นักวิเคราะห์คาดไว้