UPA มั่นใจ Q4/58 มีกำไรจากรับรู้รายได้ APU เผยล้างขาดทุนสะสมหมดปี 60

UPA มั่นใจ Q4/58 มีกำไรจากรับรู้รายได้หลังเข้าซื้อ "อันดามันเพาเวอร์" เตรียมล้างขาดทุนสะสม 303 ลบ.หมดปี 60 เผยอยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลพม่าเพื่อทำโรงไฟฟ้าใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กำลังการผลิต 30MW คาดได้ข้อสรุปใน1-2 เดือนนี้


นายนพพล มิลินทางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ UPA เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/58 เป็นต้นไปจะมีผลการดำเนินกลับมาเป็นกำไรได้ โดยจะรับรู้รายได้ของบริษัท อันดามันเพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด (APU) เข้ามาตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/58 หลังการเข้าซื้อหุ้น APU จำนวน 93% จะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนนี้ โดยปัจจุบัน APU มีรายได้จากการขายไฟฟ้ากำลังการผลิต 6 เมกะวัตต์ อยู่ที่ 2.5 แสนล้านเหรียญ/เดือน หรือราว 7 ล้านบาท/เดือนซึ่งมีอัตรากำไรสุทธิ 15 %

ขณะที่บริษัทยังจะบันทึกกำไรจากยอดโอนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เขาใหญ่อีกกว่า 50 ล้านบาท รวมไปถึงในช่วงปลายปีจะพิจารณาแบ่งขายที่ดินเปล่าบางส่วนที่จังหวัดพังงา ซึ่งมีอยู่กว่า 19-20 ไร่ด้วย นอกจากนี้ในส่วนธุรกิจเดิมก็จะเปิดตัวซอฟแวร์ใหม่ในช่วงปลายไตรมาส 3/58 ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยพัฒนากลุ่มธุรกิจเดิมให้มียอดขายกลับมาอยู่ในระดับที่ดีอีกครั้ง อีกทั้งบริษัทคาดว่าจะล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ทั้งหมด 303 ล้านบาทภายในปี 60 ซึ่งจะมาจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นตามลำดับ

ด้านนายอุปกิต ปาจรียางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APU เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า กำลังการผลิต 200 เมกะวัตต์ จากรัฐบาลเมียนมาร์ภายใน 2 เดือนนี้ และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างทันที ซึ่งจะใช้เงินลงทุนราว 240-250 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 60 ส่วนที่เงินลงทุนจะมาจากเงินกู้โครงการ (project finance) จากสถาบันทางการเงินภายในประเทศ

ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลเมียนมาร์เพื่อทำโรงไฟฟ้า ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์เพื่อใช้ในโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน1-2 เดือนนี้ โดยโครงการดังกล่าวจะมีลักษณะการติดตั้งเหมือนโรงไฟฟ้าเฟส 1 ที่ได้มีการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ไปแล้ว 6 เมกะวัตต์

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่าการศึกษาและเจรจาเงื่อนไขสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าเฟส 3 กำลังการผลิต 300 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเจรจาแล้วเสร็จไม่เกินปี 60

Back to top button