JAS ร่วงแรง 4%-“พิญช์” แจ้งลาออก “ซีอีโอ” หลังก.ล.ต.สั่งปรับกรณีซื้อขายหุ้น JTS

JAS ร่วงแรง 4%-"พิญช์" แจ้งลาออก “ซีอีโอ” หลังก.ล.ต.สั่งปรับกรณีซื้อขายหุ้น JTS


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ณ เวลา 12.12 น. อยู่ที่ระดับ 6.30 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 3.82% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 414.60 ล้านบาท

โดยวันนี้(17 ก.ย.62) บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ระบุว่า ได้รับหนังสือแจ้งการลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการของนายพิชญ์ โพธารามิก แม้จะยังไม่ได้รับทราบในรายละเอียดจาก ก.ล.ต. ในเรื่องดังกล่าวแต่เพื่อให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี จึงได้ขอลาออกและให้การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2562 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างจัดประชุมคณะกรรมการเป็นกรณีเร่งด่วนเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งแทนนายพิชญ์ โพธารามิก

ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงการดำเนินการตามแผนธุรกิจที่วางไว้แต่อย่างใด

อนึ่งวานนี้(16 ก.ย.62) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์  (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งราย นายพิชญ์ โพธารามิก และ นายเกริกไกร ไตรบัญญัติกุล กรณีใช้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น บริษัท จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JTS โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งและส่งคืนผลประโยชน์รวม 59.10 ล้านบาท

ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-12 ต.ค.59 นายพิชญ์ได้ร่วมกับนายเกริกไกรซื้อหุ้น JTS  ซึ่ง บริษัท จัสมินอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ถือหุ้นใน JTS  ร้อยละ 32.8 โดยใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายเกริกไกร ก่อนที่จะมีการเปิดเผยงบการเงินไตรมาสที่ 3 ประจำปี 59 ที่มีผลกำไร 21.39 ล้านบาท พลิกกลับจากที่มีผลขาดทุนมาตลอดตั้งแต่ปี 57 และเป็นข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อราคาหลักทรัพย์

โดยที่ผลกำไรของ JTS ดังกล่าว เกิดจากการที่ JTS ได้รับการว่าจ้างงานจาก บริษัท ทริปเปิล ที บรอดแบนด์ จำกัด มหาชน หรือTTTBB ซึ่ง JAS ถือหุ้นใน TTTBB ผ่านบริษัท อคิวเมนท์ จำกัด ร้อยละ 99 ซึ่งนายพิชญ์ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ และนายพิชญ์ยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการของ JAS ที่ให้นโยบายในการว่าจ้างงานภายในกลุ่มด้วย นายพิชญ์จึงอยู่ในฐานะที่ล่วงรู้ข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อราคาหลักทรัพย์ของ JTS

การกระทำข้างต้นของนายพิชญ์และนายเกริกไกร จึงเป็นการซื้อหุ้น JTS โดยใช้ข้อมูลภายใน อันเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 241 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะกระทำความผิด

Back to top button