KTC-BGRIM-AMANAH นำทีมเด้ง! จับตาอีก 4 หุ้นฟุตซี่ต่อคิวรับเม็ดเงินไหลเข้าก่อนมีผลพรุ่งนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) นักลงทุนต่างประเทศที่ลงทุนตามดัชนี FTSE All World จะทยอยเข้ามาลงทุนระหว่างวันและ ณ ราคาปิด ซึ่งคาดว่าจะทำให้วอลุ่มตลาดโดยรวมจะไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยกลุ่มหุ้นเข้าคำนวณ FTSE rebance รอบใหม่  อาทิ Large cap EGCO , Mid cap KTC , BGRIM , Small cap PLANB THANI THG  , Micro cap  AMANAH

โดยบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ณ เวลา 11.49 น. อยู่ที่ระดับ 44.25 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.14% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 150.36 ล้านบาท

ส่วนบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ณ เวลา 42.50 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.59% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 182.00 ล้านบาท

ส่วนบริษัท อะมานะฮ์ ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ AMANAH ณ เวลา 12.02 น.อยู่ที่ระดับ 3.26 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 4.49% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 78.22 ล้านบาท

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (20 ก.ย.) นักลงทุนต่างประเทศที่ลงทุนตามดัชนี FTSE All World จะทยอยเข้ามาลงทุนระหว่างวันและ ณ ราคาปิด ซึ่งคาดว่าจะทำให้วอลุ่มตลาดโดยรวมจะไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย

“คาดว่าเม็ดเงินจากต่างประเทศจะทยอยเข้ามาระหว่างวันและราคาปิดวันพรุ่งนี้ โดยพุ่งเป้าที่หุ้นที่ได้เพิ่มน้ำหนักการลงทุน และหุ้นที่เข้าคำนวณในดัชนี FTSE All World ตัวใหม่” นายกรภัทร กล่าว

สำหรับหุ้นเข้าคำนวณ  FTSE All World ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เข้าในส่วนของ Large Cap จากเดิมที่อยู่ในกลุ่ม Mid Cap ส่วนบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เข้ากลุ่ม Mid Cap คาดว่าจะมีเงินเข้าลงทุนประมาณ 64 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2 พันล้านบาท) และบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เข้า Mid Cap เช่นกัน และจะมีเงินเข้าประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 930 ล้านบาท) ส่วนของ Small Cap ได้แก่ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB, บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI และ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ถูกคัดเลือกเข้า โดยทั้งหมดจะมีผลราคาปิด 20 กันยายนนี้

ก่อนหน้านี้ FTSE All world ประกาศเพิ่มน้ำหนัก INTUCH ระหว่างกาล (เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม) และมีผลราคาปิดวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา มีเม็ดเงินราว 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.5 พันล้านบาท

ด้านสำนักวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด ระบุว่า หุ้นที่เข้า FTSE Micro Cap. รอบนี้ ได้แก่ AMANAH, QHHR, SSP, TWZ, ZEN ส่วนหุ้นที่ออก ได้แก่ AJ, APCS, AQ, BOFFICE, CM, CTW, FNS, FSS, IT, LEE, MILL, MJLF, MODERN, PAP, PL, PRM, SGP, SITHAI, SKN, SSSC, SUC, THIP, TPRIME, TR, TRUBB, TWPC, VNG

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า BGRIM ไตรมาส 3 มีโอกาสจะทำสถิติกำไรสูงสุดใหม่หนุนโดยการรับรู้ผลประกอบการเต็มไตรมาสของโซลาร์ฟาร์มขนาดใหญ่ในประเทศเวียดนามและการเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นใน ABP1 ขณะที่  PLANB โฆษณาในสื่อนอกบ้านยังโตต่อเนื่อง และเริ่มเห็นรายได้จากความร่วมมือกับ VGI เข้ามา

บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ากำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนเนื่องจากราคาที่ปรับขึ้นแรง โดยหากย้อนไปมองตั้งแต่ต้นปี 2562 จนถึงปัจจุบัน หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 21.93% เทียบกับ 5% ของ SET แม้จะมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพียง 1.47 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 8.5% ของ SET เท่านั้น แต่หากพิจารณาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน พบว่ามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 371,962 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด(มหาชน) มองแนวโน้มกำไร EGCO ปี 2563 จะยังเติบโตต่อเนื่อง จากโครงการใหม่ที่เริ่มผลิตไฟฟ้าในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้

ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง ต่างมองตรงกันว่า กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยโลกที่ลดลง ได้แก่กลุ่มเช่าซื้อ อย่าง AMANAH และ THANI โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ย (0.25%) อีกครั้งในปีนี้

ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ระดับ 1.50%

บล.กรุงศรี ระบุว่า วันนี้(19ก.ย.) ว่า คาดภาวะตลาดจะได้แรงซื้อเก็งกำไรการทำ FTSE rebalance รอบใหม่ที่จะมีผลพรุ่งนี้ 20 ก.ย.ช่วยหนุนต่อภาพการลงทุนให้รีบาวด์ขึ้นได้ ดังนั้นแนะนำซื้อเก็งกำไรในกรอบ 1,650 – 1,660 จุด

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy หุ้นเข้าคำนวณ FTSE rebance รอบใหม่  Large cap EGCO , Mid cap KTC , BGRIM , Small cap PLANB THANI THG  , Micro cap  AMANAH

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(19ก.ย.) ว่า บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM  ( ซื้อเก็งกำไรเป้าสูงสุด IAA Consensus 46 ) FTSE rebalance รอบใหม่โดยใช้ราคาปิดวันพรุ่งนี้ โดย BGRIM เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ได้เข้าคำนวณในการปรับน้ำหนักของกลุ่ม Mid cap รอบนี้ ด้านผลกำไรในไตรมาส 3/62 และไตรมาส 4/62 จะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของโรงไฟฟ้าใหม่ที่ทยอย COD ในช่วงปีที่ผ่านมาและต่อเนื่องมาจนถึงครึ่งปีแรกของปีนี้ ทำให้กำลังการผลิตของ BGRIM เพิ่มขึ้นกว่า 40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน