7UP อัดงบ 35 ลบ.แตกไลน์ 2 ธุรกิจใหม่ “ความงาม-สุขภาพ” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 900 ลบ.

นายสิทธิชัย กฤชวิวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 7UP เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมที่จะลงทุนในธุรกิจใหม่ 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจความสวยความงามและสุขภาพ โดยเป็นการร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการอยู่แล้ว และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมามียอดขายราว 20-30 ล้านบาทต่อเดือน ด้านธุรกิจเกมมีการร่วมมือกับผู้พัฒนาเกมที่เป็นสตาร์ทอัพในประเทศไทย และถือเป็นผู้พัฒนารายแรก รายเดียวของโลกในการพัฒนาเกมรูปแบบดังกล่าว

ทั้งนี้ คาดว่า 2 ธุรกิจใหม่จะเห็นความชัดเจนในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นคาดใช้งบลงทุนรวมราว 35 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจเกม 15 ล้านบาท และ ธุรกิจความสวยความงามและสุขภาพ 20 ล้านบาท

สำหรับการขยายธุรกิจเกี่ยวกับระบบระบายความร้อน Cooling Tower ในภาคอุตสาหกรรม ที่ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัท เฟอร์รั่ม เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (FER EN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เข้าลงทุน 50% ในบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ รีโวลูชั่น จำกัด (ERV) ปัจจุบันได้มีการเจรจากับลูกค้าแล้วหลายราย คาดว่าในช่วงปลายปีนี้จะมีงานในมือ (Backlog) ราว 300-400 ล้านบาท และจะรับรู่รายได้ในปีนี้บางส่วน ส่วนที่เหลือจะรับรู้รายได้ในปีถัดไป

ทั้งนี้ภาพรวมผลประกอบการในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 800-900 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิแน่นอน หลังจากช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้ 525.30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 26.25 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากดำเนินการตามแผนปรับโครงสร้างของบริษัท โดยในปีนี้สัดส่วนรายได้หลักยังมาจาก บริษัท สตาร์แก๊ส จำกัด ที่ประกอบธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน 6 สาขา, ก๊าซ LPG 30 สาขาและก๊าซ NGV 2 สาขา

ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจรับกำจัดกากขยะอุตสาหกรรมในรูปแบบการฝังกลบอยู่แล้ว มีรถบรรทุกที่วิ่งรับกากขยะอุตสาหกรรมจากโรงงานต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น 34 คัน และธุรกิจปรับปรุงคุณภาพน้ำเพื่อการเลี้ยงกุ้งผ่านบริษัท แซม วอเตอร์ซัพพลาย ซึ่งได้เริ่มให้บริการในไทยไปแล้วในฟาร์มกุ้งของ CPF โดยเฟสแรกส่งน้ำ 50,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันไปแล้ว และเตรียมส่งมอบในเฟสที่สอง 14,000  ลูกบาศก์เมตรต่อวันในช่วงเดือน ก.ย.62  มีแผนขยายกำลังการบำบัดน้ำดังกล่าวเพิ่มขึ้นในปี 63

นอกจากนี้ ยังมีโครงการจัดหาติดตั้งเสาและพาดสายไฟเบอร์ออพติก ในประเทศ สปป.ลาว มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างเฟสแรกติดตั้งเสา 146 กิโลเมตร และจะเริ่มเฟส 2 ที่ 200 กิโลเมตรในช่วงปลายปี 62

“การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆจะเริ่มเห็นผลในปี 64 เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนส่งทางเรือ ธุรกิจเตาเผาขยะอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้าชีวมวล แต่ในปีนี้การเติบโตหลักจะมาจากสถานีบริการน้ำมัน และก๊าซเป็นหลัก ซึ่งเราจะเน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโต และมีผลกำไรที่ดีเป็นหลัก” นายสิทธิชัย กล่าว