สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 ก.ย. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 ก.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความปั่นป่วนทางการเมืองในสหรัฐ หลังจากประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดฉากการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง ฐานติดต่อกับรัฐบาลต่างชาติให้เข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าการเจรจาการค้าอาจสะดุดลง หลังจากปธน.ทรัมป์ได้กล่าวโจมตีจีนบนเวทีสหประชาชาติ (UN)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,807.77 จุด ลดลง 142.22 จุด หรือ -0.53% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,966.60 จุด ลดลง 25.18 จุด หรือ -0.84% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,993.63 จุด ลดลง 118.83 จุด หรือ -1.46%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจของเยอรมนีที่ยังคงอ่อนแอ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.01% ปิดที่ 389.84 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,628.33 จุด ลดลง 2.43 จุด หรือ -0.04%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,307.15 จุด ลดลง 35.18 จุด หรือ -0.29% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,291.43 จุด ลดลง 34.65 จุด หรือ -0.47%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) โดยถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้น หลังตุลาการศาลฎีกาของสหราชอาณาจักรมีคำวินิจฉัยว่า คำสั่งของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในการขยายเวลาปิดสมัยประชุมสภานั้น ถือเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,291.43 จุด ลดลง 34.65 จุด หรือ -0.47%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 57.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ดิ่งลง 1.67 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 63.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่อ่อนแรงลง ยังส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1,540.2  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.3 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 18.628 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 955.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 20.80 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,646.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) หลังจากผลสำรวจของสถาบัน Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงหนักสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.04 เยน จากระดับ 107.46 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9855 ฟรังก์ จากระดับ 0.9898 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3236 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3259 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1017 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0995 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2495 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2435 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6799 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6769 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button