TASCO เด้ง 4% หลังร่วงยาว 5 วันติด ฟากโบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ชูเป้า25บ. คาดผลงานครึ่งหลังสดใส
TASCO เด้ง 4% หลังร่วงยาว 5 วันติด ฟากโบรกฯเชียร์ "ซื้อ" ชูเป้า25บ. คาดผลงานครึ่งหลังสดใส โดย ณ เวลา 15.58 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 20.70 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 4.02% สูงสุดที่ระดับ 20.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 19.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 182.71 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ณ เวลา 15.58 น. อยู่ที่ระดับ 20.70 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 4.02% สูงสุดที่ระดับ 20.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 19.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 182.71 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น TASCO ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 5 วันก่อนหน้านี้ นับตั้งแต่ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 20.60 บาท เมื่อวันที่ 18 ก.ย.62
ด้าน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” TASCO พร้อมให้ราคาเป้าหมาย 25.00 บาท โดยคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการของ TASCO ในครึ่งหลังปี 62 แข็งแกร่งจากแนวโน้มสเปรดดีขึ้น โดยผู้บริหารให้ Guidance ว่าสเปรดของยางมะตอยกับน้ำมันจะกว้างขึ้นเพราะตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/62 จนถึงปัจจุบันราคายางมะตอยยังคงสูงที่ 390-395 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ขณะที่ราคาน้ำมันลดลงเป็น 58-60 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ คาดว่าปริมาณการขายในครึ่งปีหลังจะเติบโต 21% จากงวดปีก่อน หรือเป็นประมาณ 1.05 ล้านตัน จากสัดส่วนยอดขายในประเทศ 20% และต่างประเทศ 80% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 13% จากครึ่งปีแรกที่ 12.5% นอกจากนั้นในไตรมาสที่ 4/62 จะได้รับค่าเคลมประกันจากเหตุเพลิงไหม้คลังเก็บน้ำมันในปีก่อนด้วย
ด้านอุปสงค์ในตลาดต่างประเทศยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะตลาดจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ออสเตรเลีย และเวียดนาม ขณะนี้ TASCO ได้รับคำสั่งซื้อที่แน่นอนสำหรับไตรมาส 3/62 แล้ว คาดว่าปริมาณขายจะสูงที่ 0.6 ล้านตัน หรือเติบโต 58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะเดียวกันยังได้ประโยชน์จาก IMO ที่ตั้งแต่ 1 ม.ค.63 เรือเดินสมุทรต้องใช้น้ำมันที่มีซัลเฟอร์ไม่เกิน 0.5% จากปัจจุบันที่กำหนดไว้ไม่เกิน 3.5% ทำให้โรงกลั่นจะหันไปผลิตน้ำมันที่ซัลเฟอร์ต่ำมากขึ้น ขณะที่อุปทานน้ำมันที่ซัลเฟอร์สูงที่ให้ยางมะตอย 70-75% จะลดลง ยังผลให้ราคาขายยางมะตอยจะปรับขึ้นได้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบหนักที่มีซัลเฟอร์สูงจะลดลง
นอกจากนี้ TASCO พยายามลดความเสี่ยงเรื่องการซื้อวัตถุดิบจากเวเนซูเอลา โดยการหาตลาดซื้อใหม่ ๆ เช่น โคลอมเบีย, บราซิล, เอกวาดอร์, อินโดนีเซีย และตะวันออกกลาง แต่น้ำมันในตลาดเหล่านี้ให้ Yield ต่ำกว่าเวเนซูเอลา ส่วนวัตถุดิบจากเวเนซูเอลา ปัจจุบันได้รับมาแล้ว 8 Shipments คาดว่าทั้งปีนี้จะได้รับ 15 Shipments ซึ่งเพียงพอต่อการผลิตถึงปีหน้า