PTT อัดงบ 30 ลบ. แจกส่วนลดก๊าซหุงต้มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 100 บ. มีผลต.ค.-ธ.ค.62
PTT อัดงบ 30 ลบ. แจกส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 100 บ. มีผลต.ค.-ธ.ค.62
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา มีมติให้การสนับสนุนนโยบายภาครัฐในการแบ่งเบาภาระต้นทุนค่าครองชีพของประชาชน
โดยให้ความช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้ม แก่ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 88,189 ราย เป็นจำนวนเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 100 บาทต่อเดือน สำหรับใช้สิทธิ์ซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าก๊าซที่ลงทะเบียนกับกรมบัญชีกลาง ผ่านอุปกรณ์รับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Capture : EDC) ของธนาคารกรุงไทยทั่วประเทศ โดยมีระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม 2562 ในวงเงินรวม 30 ล้านบาท
ทั้งนี้ นับเป็นโครงการนำร่องของ ปตท. ร่วมกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลัง ในการปรับฐานข้อมูลผู้สมควรได้รับการสนับสนุนโดยตรง ให้สอดคล้องกับข้อมูลผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในการให้ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม
นอกจากนี้คณะกรรมการ ปตท. ยังอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2562 ในอัตรา 0.9 บาท ต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนเงินปันผล (Dividend Payout Ratio) ประมาณ 47.1% ของกำไรสุทธิงวดครึ่งแรกของปี 2562 และอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนต่อปี (Dividend Yield) 4.3% ซึ่งเป็นไปตามความคาดหวังของนักลงทุน
ด้านกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ ปตท. จะได้รับเงินปันผลคิดทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านกองทุนวายุภักษ์คิดเป็นจำนวนเงินประมาณ 16,000 ล้านบาท โดยผู้ถือหุ้นทั้งสถาบันและรายย่อยกว่า 100,000 คน จะได้รับเงินปันผลกว่า 10,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 26,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ ทั้งนี้กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD (Exclude Dividend) วันที่ 10 ตุลาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 25 ตุลาคม 2562
“มติของคณะกรรมการ ปตท. แสดงให้เห็นถึงการดูแลประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้น้อย เพื่อให้มีอาชีพที่มั่นคงขึ้น อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่านเงินปันผลให้กับกระทรวงการคลังและผู้ถือหุ้นกว่า 100,000 ราย เป็นเงินประมาณ 26,000 ล้านบาท ในเดือนตุลาคม 2562 เพื่อสร้างการเติบโตและความยั่งยืนของเศรษฐกิจและสังคมไทย โดย ปตท. ยังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจแบบบูรณาการในทุกมิติเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มั่นคงต่อไป” นายชาญศิลป์ กล่าว