MK ผุด 4 โครงการใหม่กว่า 4 พันลบ. ตีตลาดบ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮมไตรมาส 4
MK ผุด 4 โครงการใหม่กว่า 4 พันลบ. ตีตลาดบ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม เปิดขาย 2 โครงการ "ชวนชื่น ไพรม์ วิลเลจ บางนา-ชวนชื่น ทาวน์ ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ" 5-6 ต.ค.นี้
นายศักดินา แม้นเลิศ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารโครงการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า หากพูดถึงแนวโน้มสถานการณ์อสังหาฯ ครึ่งปีหลัง จากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะปัญหาทางด้านเศษฐกิจภายในประเทศ และปัจจัยภายนอกประเทศ ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวฉุดกำลังซื้ออสังหาฯ
รวมถึงผลกระทบจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย [LTV] โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ปลอดภาระส่วนใหญ่ ซึ่งวางงบประมาณการซื้อไว้ที่ 2 – 3 ล้านบาท แต่ต้องการกู้ส่วนตกแต่งเพิ่ม ซึ่งมาตรการใหม่ไม่สามารถทำได้ และกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มติดภาระผ่อนบ้าน/คอนโดฯ เดิมอยู่ ถ้าจะซื้อเพิ่มต้องใช้เงินดาวน์ 10 – 20% ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ไม่มีเงินดาวน์ ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงได้วางแผนงานก่อสร้างใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีบ้านสร้างเสร็จและบ้านผ่อนดาวน์ให้ลูกค้าเลือก พร้อมทำโปรโมชั่นแบ่งเบาภาระของลูกค้าในการซื้อบ้าน เช่น ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน, ฟรีเครื่องปรับอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อเหลืองบสำหรับตกแต่งบ้านหลังโอนกรรมสิทธิ์ อีกทั้งยังมีพาร์ทเนอร์จากธนาคารต่างๆ ในการช่วยดูแลและให้คำปรึกษาทางด้านสินเชื่อกับลูกค้าอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความต้องการซื้อแนวราบยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นกลุ่มที่ยังมีความต้องการบ้าน และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง ซึ่งมั่นคงฯ เอง ก็มีนโยบายพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝดและทาวน์เฮ้าส์ ราคา 2 – 5 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับจับต้องได้อยู่แล้ว จึงสอดรับกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้ตรงตามเซ็กเมนท์ โดยมีการพัฒนาต่อยอดในแต่ละโครงการฯ ให้มีจุดเด่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับสินค้าและบริการ
สำหรับไตรมาสสุดท้ายปี 2562 มั่นคงฯ จึงประกาศแผนเปิดตัว 4 โครงการใหม่ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,560 ล้านบาท โดยประเดิมเปิดพรีเซลล์ 2 โครงการแรก ในตุลาคมนี้ แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 1 โครงการ ทางโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ได้แก่ ชวนชื่น ไพรม์ วิลเลจ บางนา ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท และ ทาวน์โฮม 1 โครงการ โซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ได้แก่ ชวนชื่น ทาวน์ ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท
โดยความโดดเด่นของทั้ง 2 โครงการใหม่ คือ เป็นแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ที่ถูกพัฒนาภายใต้คอนเซปต์ ‘การ์เด้น โฮม’ เน้นโทนสีธรรมชาติ และการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย โดยตัวโครงการบ้านเดี่ยว ชวนชื่น ไพรม์ วิลเลจ บางนา ตั้งอยู่บนทำเลถนนบางนา-ตราด กม.29 เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 115 – 179 ตารางเมตร พร้อมสวนส่วนกลางกว่า 2 ไร่ ขณะที่โครงการ ชวนชื่น ทาวน์ ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ พรีเมี่ยมทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร บนขนาดที่ดิน 21 ตรว. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 140 ตารางเมตร พร้อมฟังก์ชั่นเทียบเท่าบ้านเดี่ยว มีดีไซน์การออกแบบ เน้นความโปร่งโล่ง เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติจากภายนอก และการถ่ายเทของอากาศ มีห้องนอนชั้นล่างเพื่อรองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตาม Life Style ของ ผู้อยู่อาศัย
ทั้งนี้ พื้นที่สวนส่วนกลางถูกออกแบบให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ทุกคนทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น สนามหญ้ากว้าง, ลานนวดเท้า ให้ผู้สูงอายุมาเดินออกกำลังกายรับลมเบาๆ หรือจะเป็น Playground ที่เสริมสร้างการเรียนรู้ของเด็กๆ รวมถึง Jogging track และเครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง ทั้งหมดนี้เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัย โดยให้ “บ้าน” เป็น “ใจกลาง” ความสุข ของทุกคนในครอบครัว
“เหตุผลสำคัญที่เราเลือกเปิดขายทั้ง 2 โครงการนี้ก่อน เนื่องจากเป็นทำเลที่ดี พร้อมด้วยในด้านการก่อสร้างอยู่ในแผนงานและในส่วนของฐานลูกค้าเก่าของ “ชวนชื่น ทาวน์” ที่เปิดมาแล้วกว่า 3 โครงการ ในโซนบางใหญ่ และราชพฤกษ์ – 345 ซึ่งเราเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในทำเลนี้ ส่วนโซนบางนาก็มีฐานลูกค้าเก่าที่มีกว่า 3 โครงการ และลูกค้ามีความเชื่อมั่นในการก่อสร้างของแบรนด์ชวนชื่นอย่างดีมาตลอด
โดย ชวนชื่น ทาวน์ ชัยพฤกษ์ – แจ้งวัฒนะ เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการขยับขยายจากที่อยู่เดิม เช่น คอนโด บ้านเช่า หรือขยายครอบครัวและกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำ พักอาศัยโซนราชพฤกษ์ แจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด รัตนาธิเบศร์ นนทบุรี ใช้เส้นทางการเดินทางที่สะดวกเข้าสู่เมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วน ใกล้ห้างสรรพสินค้า และใกล้แหล่งชุมชน ขณะที่ ชวนชื่น ไพรม์ วิลเลจ บางนา เน้นลูกค้าที่ต้องการขยับขยายจากที่อยู่เดิมโซนบางพลี บางบ่อ บางเสาธง ใกล้ที่ทำงาน นิคมเวลโกรว์ เน้นเดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำ หรือเจ้าของกิจการขนาดเล็ก-ขนาดกลาง”นายศักดินา กล่าว